26 เมษายน 2024
รายงานพิเศษแนะนำเครื่องเขียนดีเด่น สำหรับต้อนรับปีใหม่ 2563

แนะนำเครื่องเขียนดีเด่น สำหรับต้อนรับปีใหม่ 2563

กลับมาอีกครั้งสำหรับคู่มือ (ไกด์) แนะนำเครื่องเขียนดีเด่น สำหรับซื้อไว้เป็นของขวัญในปี 2563 ไม่ว่าจะเพื่อตัวเอง คนที่คุณรัก หรือแม้กระทั่งเจ้านายก็ดีครับ เช่นเคย ทีมงานไรท์ติ้งอินไทย พิจารณาจากคุณภาพทุกด้าน ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการเขียน (ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของตัวปากกา) รวมถึงการบริการหลังการขายด้วย

เราคัดเลือกจากอะไร?

เกณฑ์การคัดเลือกเครื่องเขียนของเรายังคงเหมือนเดิม คือ ต้องทำหน้าที่พื้นฐาน (basic function) ที่ดี, มีงานประกอบและวัสดุที่สมกับราคา, ใช้ทำหน้าที่อย่างอื่น (เช่น มีคุณค่าในการสะสม หรือใช้ในการแสดงฐานะ) ได้ด้วยในเวลาเดียวกัน

และสำหรับปากกา “ดีเด่น” หรือ “แนะนำ” นั้น ต้องมีตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อความสะดวกในการหาซื้อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้อื่นด้วย

ทีมงานแบ่งปากกาออกเป็นช่วงราคาต่างๆ กัน โดยมีทั้งหมด 4 ช่วงราคา ดังต่อไปนี้ (สามารถกดที่ช่วงราคา เพื่อไปยังแต่ละช่วงได้): ไม่เกิน 1,000 บาท, ไม่เกิน 3,000 บาท, ไม่เกิน 8,000 บาท และมากกว่า 8,000 บาทเป็นต้นไป

ในปีนี้ ลิสต์รายการยังคงคล้ายๆ ของเดิมในปีที่แล้ว แต่มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เรารีวิวปากกามาพอสมควร ส่วนจะเป็นอะไรบ้างนั้น ขอเชิญติดตามครับ


ไม่เกิน 1,000 บาท

ดีเด่น: MUJI Fountain Pen

ยังคงติดอันดับแรกสำหรับปากกาในกลุ่มราคาเป็นมิตรแต่ทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับ MUJI Fountain Pen (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่) และพบว่าเป็นปากการาคา 450 ที่เขียนดีทีเดียว

เช่นเคย นอกจากจะเพราะคุณภาพการเขียนแล้ว การออกแบบชิ้นงานที่ให้ความเป็น “มินิมัล” ก็ทำออกมาได้อย่างดี ข้อติของปากกาแท่งนี้มีเพียงสองอย่าง คือการไม่แถมหลอดสูบหมึกมาให้ และบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีแค่ห่อพลาสติก หากจะมอบเป็นของขวัญอาจจะต้องหาอย่างอื่นมาห่อหุ้มเพิ่มสักนิด

มาปีนี้ ด้วยความต้องการที่ล้นหลาม ทำให้สินค้าขาดตลาดไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนหลังกลับมาเติมใหม่แล้ว ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะซื้อปากกาหมึกซึมรุ่นไหนมา ทีมงานแนะนำปากการุ่นนี้เป็นอย่างยิ่ง

ราคา: 450 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: MUJI ทุกสาขา

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Caran d’Ache 888 Infinite

Caran d'Ache 888 INFINITE

ถ้าชอบปากกาลูกลื่น ที่สามารถเขียนแล้วมีประสิทธิภาพที่ดี โดยไม่ได้ใช้งบประมาณที่แพงมาก Caran d’Ache 888 Infinite คือปากกาที่เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

แม้ตัวปากกาจะเป็นพลาสติก แต่ความรู้สึกที่ได้ขณะจับก็ไม่ใช่ความรู้สึกว่ากำลังใช้ของถูกแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังเขียนได้ดีกว่าปากกาอื่นๆ ในท้องตลาดทั่วไปด้วย ข้อจำกัดคงอยู่ที่ไส้ซึ่งมีขนาดเล็ก และถ้าใช้เขียนบ่อยๆ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนไส้บ่อยตาม

ราคาเริ่มต้นที่ 360 บาท ไปจนถึง 628 บาท แล้วแต่รุ่นและลวดลาย ซึ่งถ้าใครชอบลายแปลกๆ ก็มีเช่นกัน

ราคา: 360 – 628 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: จุดจำหน่ายของ Capital Good Rich และ HHK Intertrade ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Artifact Hallmark

สีต่างๆ ของปากกา Artifact Hallmark
สีต่างๆ ของปากกา Artifact Hallmark

Artifact Hallmark ปากกาสัญชาติไทยจาก DHA Siamwalla ยังคงเป็นปากกาอีกรุ่นที่ติดในปีนี้ ทีมงานประทับใจการออกแบบของปากกานี้ที่มีโทนสีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ (ในรูปมีทั้งโทนเงิน-ทอง, ดำด้าน-เงิน และดำเงา-ทอง) เหมาะกับการเลือกเป็นของขวัญให้กับคนหลากหลายวัย (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

นอกจากนี้แล้วในแง่ของการเขียนก็ทำได้ดี ไส้ปากกาที่ใช้ผลิตโดย Schmidt ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านไส้ปากกา ให้ความรู้สึกดีในการเขียน ทั้งในแง่ความลื่นและการไม่ติดขัดแต่อย่างใด

ราคา: 500-590 บาท (ต่อด้าม) ขึ้นกับสี
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือที่ร้านของ DHA Siamwalla

[กลับไปด้านบน]


ขวัญใจมหาชน: LAMY safari/vista/AL-star

LAMY safari red clip Limited Edition

LAMY safari และรุ่นข้างเคียงอย่าง LAMY vista/AL-star ยังคงเป็นปากกายอดนิยมของมหาชนทั่วฟ้าเมืองไทยโดยมิเสื่อมคลาย และยังคงครองตำแหน่ง “ขวัญใจมหาชน” ต่อไป (น่าจะอีกยาวนานเลยทีเดียว)

LAMY safari ได้รับความนิยมจากการออกแบบปากกาที่เรียบง่าย รูปทรงของคลิปหนีบที่เป็นเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเมื่อเหน็บกับกระเป๋าเสื้อ รวมถึงรุ่นสีพิเศษที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นในปีนี้ที่มีรุ่นคลิปสีแดงมาด้วย นอกเหนือไปจากสีพาสเทลที่ออกวางจำหน่ายเมื่อต้นปี

ราคา: 700-800 บาท (ต่อด้าม) ขึ้นอยู่กับประเภทหัวเขียน (EF จะแพงกว่า)
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, LAMY pop-up shop หรือที่ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


ไม่เกิน 3,000 บาท

ดีเด่น: ปากกาลูกลื่น Proud Jewel GemoPen

ในปีนี้ ปากกาที่เราจัดว่าดีเด่นอย่างมากสำหรับกลุ่มราคานี้ คือปากกาลูกลื่น Proud Jewel GemoPen ที่เป็นปากกาของคนไทย ทำขึ้นอย่างประณีต ใช้ใส้มาตรฐานแบบ Parker G2 สามารถหาซื้อเปลี่ยนได้ไม่ยาก

สิ่งที่โดดเด่น นอกเหนือจากการเป็นปากกาที่ผลิตในประเทศไทยแล้ว การผลิตยังทำได้ดีอย่างมาก ตัวหัวปากกาประดับอัญมณี Smoky Quartz หรือ Mosambique Garnet ให้เลือกแล้วแต่รุ่น มาในกล่องอัญมณีที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

ที่สำคัญคือราคาเพียง 1,399 บาทเท่านั้น ถ้าสั่งออนไลน์ช่วงนี้จะลด 100 บาทเพิ่ม เหลือ 1,299 บาท นับว่าเป็นปากกาที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

ราคา: 1,399 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: Line ID: @PROUDJEWEL หรือตามโพสต์นี้

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: TWSBI Diamond 580 ALR

TWSBI Diamond 580 ALR

แม้เทรนด์ของปี 2019 ปากกาแบบด้ามใสหรือ Demonstrator จะมาแรง แต่ไม่มีปากกาด้ามไหนจะแรงได้เท่า TWSBI Diamond 580 ALR ที่เป็นอีกหนึ่งด้ามซึ่งเราแนะนำ (อ่านรีวิวได้ที่นี่)

แน่นอนว่าปากการุ่นนี้อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ หัวเขียนที่แม้จะทำผลงานได้ดี แต่เรายังคิดว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าเมื่อเทียบประสิทธิภาพโดยรวม รวมถึงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แล้วนั้น ปากการุ่นนี้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอย่างยิ่งยวด

ราคา: 2,150 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


ขวัญใจทีมงาน: Faber-Castell LOOM

Faber-Castell LOOM ยังคงเป็นปากกาที่ทีมงานชื่นชอบ ด้วยตัวด้ามค่อนข้างใหญ่จาก Faber-Castell การออกแบบซึ่งเป็นอะลูมิเนียมทั้งด้านถือว่าทำออกมาได้อย่างเรียบง่าย สามารถพกได้ในทุกสถานการณ์ ทั้งงานทางการและไม่ทางการ

ในแง่คุณภาพการเขียน ทีมงานประหลาดใจกับความรู้สึกที่ปากกาด้ามนี้ให้ กล่าวคือการเขียนด้วยปากกาด้ามนี้แทบไม่แรงส่งกลับ (feedback) จึงทำให้ความรู้สึกขณะเขียนนั้นลื่นและนุ่มอย่างน่าประหลาดใจ (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ทีมงานไม่สามารถมอบรางวัล “แนะนำ” ให้กับปากกาด้ามนี้ได้ คือการที่ปากกาด้ามนี้ไม่มีผู้จัดจำหน่ายและนำเข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการ ต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ก็ต้องสั่งผ่านร้านค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายเอง ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีบ้างแล้ว

ราคา: ประมาณ 1,700 บาท (ต่อด้าม)
ช่องทางจัดจำหน่าย: ช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศ

[กลับไปด้านบน]


ขวัญใจทีมงาน: Pilot Custom 74

Pilot Custom 74 นับว่าเป็นปากกาอีกรุ่นที่ทีมงานประทับใจอย่างมากในปีนี้ ด้วยคุณภาพในการเขียนที่ดีอย่างมาก ลื่นแม้จะเป็นหัวขนาด F ก็ตาม ตลอดจนถึงคุณภาพของวัสดุเมื่อเทียบกับราคาแล้ว นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

เช่นเคย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ทีมงานไม่สามารถมอบรางวัล “แนะนำ” ให้กับปากกาด้ามนี้ได้ อยู่ที่ไม่มีผู้จัดจำหน่ายและนำเข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการ ต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ก็ต้องสั่งผ่านร้านค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายเอง ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีบ้างแล้ว

ราคา: ประมาณ 3,000 บาท (ต่อด้าม)
ช่องทางจัดจำหน่าย: ต่างประเทศ

[กลับไปด้านบน]


ไม่เกิน 8,000 บาท

โดดเด่น: Visconti Breeze

จะเรียกว่ามาแรงโค้งสุดท้ายก็ไม่แปลกนัก สำหรับ Visconti Breeze ปากกาหมึกซึมรุ่นล่าสุดจาก Visconti ที่ปีนี้สามารถโค่นแชมป์ปีที่แล้วอย่าง Leonardo Momento Zero ไปได้โดยง่าย ด้วยราคาที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม แต่ยังคงคุณสมบัติต่างๆ เหมือนปากการุ่นพี่อย่าง Rembrandt นั่นเอง

ราคา: 3,950 บาท (ต่อด้าม)
ช่องทางจัดจำหน่าย: ร้าน The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


ดีเด่น: Leonardo Momento Zero

Leonardo Momento Zero Hawaii Blue

แม้ว่าจะตกอันดับชั้นปีนี้เพราะเจอน้องใหม่ไฟแรง แต่ Leonardo Momento Zero ยังคงติดคุณสมบัติโดดเด่นอยู่เช่นเคย ด้วยคุณสมบัติการเขียนที่ลื่นมากจนน่าประทับใจ แถมมีความยืดหยุ่นที่หัวติดมาเป็นของแถมด้วย เรียกว่าทำลายทุกสถิติของความน่าประทับใจ ยังไม่นับถึงวัสดุตัวด้ามที่ทำจากเรซินสีสันสวยงามอีกด้วย

ราคา: 5,550 บาท (ต่อด้าม) ยกเว้นรุ่น Hawaii Blue ราคา 6,650 บาท
ช่องทางจัดจำหน่าย: ร้าน The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Sailor 1911 Standard

Sailor 1911 Standard ที่ทีมงานยกให้เป็นปากกาหมึกซึมระดับฟ้าประทาน ยังคงเป็นปากกาอีกด้ามที่ติดลิสต์ข้ามปีเช่นเดิม เพราะเขียนได้ลื่น เขียนได้นุ่ม ขนาดเส้นกำลังเหมาะสม เป็นปากกาที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ข้อเสียคงอยู่ที่การออกแบบซึ่งไม่มีอะไรโดดเด่น และถ้าเป็นรุ่น Standard ตัวด้ามก็ออกจะเล็กไปสักหน่อย

ราคา: 6,800 บาท (ต่อด้าม) สำหรับรุ่น Standard
ช่องทางจัดจำหน่าย: แผนกเครื่องเขียน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, เพจ Sailor & DAKS Thailand หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Caran d’Ache Ecridor

ยังคงยืนหนึ่งในปากกากลุ่มโรลเลอร์บอลที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ใช้งานเขียนได้ดีไม่แพ้ปากกาหมึกซึมหรือปากกาลูกลื่น สำหรับ Caran d’Ache Ecridor ซึ่งทำผลงานการเขียนที่ดีมาก ให้น้ำหนักได้ดีไม่แพ้กัน ตัวปากกาทำมาจากทองเหลือง (brass) แล้วเคลือบด้วยโลหะดีอย่างหนา ใช้งานได้ทนทานอย่างมาก เรียกว่าใครมีปากการุ่นนี้เพียงด้ามเดียว สามารถใช้ไปได้ทั้งชีวิต

นอกจากโรลเลอร์บอลแล้ว บริษัทยังผลิตปากกาหมึกซึม (ที่มีราคาแพงระดับแตะหลักหมื่น) และปากกาลูกลื่น (ที่อยู่ประมาณ 5,000 บาท) สำหรับรุ่นนี้อีกด้วย ใครที่สนใจก็ไม่ควรพลาด มีให้ครบชุดครับ

ราคา: ประมาณ 7,000 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: แผนกปากกาในห้างสรรพสินค้า, เพจ Caran d’Ache Bangkok หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


8,000 บาท ขึ้นไป

ดีเด่น: Montblanc Meisterstück 149

Montblanc Meisterstück 149
Montblanc Meisterstück 149

Montblanc Meisterstück 149 ยังคงติดลิสต์รายชื่อในปีนี้ ทั้งสถานะของการเป็นปากการะดับสูงด้ามที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ ความนุ่มนวลในการเขียน และการเป็นปากกาที่มีสถานะเป็นปากการะดับสูงที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักอย่างดี ปากการุ่นนี้จึงครองตำแหน่งนี้ไปโดยไม่ยากเย็น และน่าจะเป็นปากกาที่โดดเด่นที่สุดที่เราเคยรีวิวมาแล้ว

ราคา: ประมาณ 30,500 บาท (ต่อด้าม) แล้วแต่สีและรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: ร้าน Montblanc และ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Montegrappa Fortuna

Montegrappa Fortuna เป็นปากกาอีกหนึ่งด้ามที่ทีมงานประทับใจอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของประสบการณ์ในการเขียนที่ลื่นในทุกองศา รวมถึงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะรุ่น Mosaic ที่เป็นลวดลายโมเสก, Heartwood ที่ใช้ไม้ในการผลิต, Copper Mule ที่ใช้ทองแดงมาเป็นวัสดุหลักเป็นต้น

ข้อด้อยของปากการุ่นนี้ อยู่ที่จุดเชื่อมระหว่างเกลียวกับตัวด้ามและปลอก ที่ออกแบบเป็นมุม 90 องศา มีความรำคาญในการจับเขียนไม่ใช่น้อย นอกจากนั้นแล้วด้วยราคาค่าตัวที่มาสูงมาก แต่ได้หัวเขียนเป็นเพียง “เหล็กกล้าไร้สนิม” ก็ทำให้ทีมงานรู้สึกว่าออกจะแพงเกินกว่าปกติเล็กน้อย

ราคา: ประมาณ 10,500 บาท (ต่อด้าม) แล้วแต่สีและรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: TKI Perpetual สยามพารากอน

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Montblanc Donation Pen Johann Strauss Special Edition

ถ้า Meisterstück 149 ยังพิเศษไม่เพียงพอ ทีมงานขอแนะนำ Montblanc Donation Pen Johann Strauss Special Edition ปากการุ่นพิเศษจาก Montblanc ที่สร้างขึ้นตามแบบรุ่น LeGrand แต่ใส่รายละเอียดลงไป เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชู Johann Strauss นักประพันธ์ดนตรีชื่อดัง รวมถึงบริจาคเงินบางส่วนจากปากการุ่นนี้ให้กับการกุศลด้วย

ข้อเสียของปากการุ่นนี้คงอยู่ที่ราคาค่าตัวซึ่งเรียกว่าแพงมาก และในปัจจุบันก็เลิกจำหน่ายไปแล้ว (มีขายเฉพาะในตลาดรอง) แต่ถ้าคิดว่าท่านต้องการเครื่องเขียนที่แสดงถึงสถานะของตัวท่าน และเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จแล้ว ปากการุ่นนี้เป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้เต็มที่

ราคา: ประมาณ 29,700 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: ร้าน Montblanc และ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: CROSS Townsend

ถ้า Meisterstück 149 ไม่สอดคล้องกับรสนิยมของท่าน ทีมงานขอแนะนำ CROSS Townsend ปากการุ่นพรีเมียมของแบรนด์ CROSS (เป็นรองแค่ Peerless 125 เท่านั้น)

เรื่องของประสบการณ์ในการเขียน ถือว่าทำผลงานได้ดีมากไม่แพ้รุ่นใหญ่ ให้ผลงานเขียนที่น่าประทับใจ ในขณะที่ยังรักษาเอกลักษณ์การออกแบบเอาไว้อย่างเต็มที่ สำหรับปากกาหมึกซึม หัวเขียนให้ความนุ่มนวล และเขียนได้ดีเป็นเอกลักษณ์ เรียกว่าน่าประทับใจอย่างมาก

ราคา: ประมาณ 9,000 บาท (ต่อด้าม) ขึ้นไป แล้วแต่สี รูปแบบการเขียน และรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือที่ร้านของ DHA Siamwalla

[กลับไปด้านบน]


ไม่ว่าปากกาทั้งหลายที่ทีมงานไรท์ติ้งอินไทยแนะนำ จะถูกซื้อเป็นของขวัญให้ผู้ใด (หรือแม้แต่เป็นของขวัญให้ตัวเอง) เราหวังว่ารายการเครื่องเขียนที่หยิบมาแนะนำจะสามารถสร้างความสุขให้กับผู้ที่ได้รับเป็นอย่างดี

ทีมงานไรท์ติ้งอินไทย ขออำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ 🙂

Patranun Thaniyavarn Limudomporn
Patranun Thaniyavarn Limudompornhttps://www.patranun.com/
เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา คนเดินดิน เรียนจบรัฐศาสตร์ ชอบปากกามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ค่อยได้บอกให้ใครรู้ เริ่มใช้ปากกาหมึกซึมมาตั้งแต่ระดับประถม และใช้ปากกาลูกลื่น Montblanc Generation เป็นปากกาประจำตัว เลิกใช้ปากกาหมึกซึมไประยะหนึ่งก่อนกลับมาใช้ใหม่เพราะเพื่อนฝูงชักชวน แต่ก็ยังวนเวียนกับปากการะดับพรีเมียมเช่นเคย

ติดตามเราบน Facebook

เนื้อหายอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

- Advertisement -