ในตลาดประเทศไทย Faber-Castell มักจะได้รับความรู้จักจากการนำผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนสำหรับงานจิตรกรรม (ได้แก่สีประเภทต่างๆ) และเครื่องเขียนทั่วไป (ดินสอหรือปากกาสำหรับใช้ในสำนักงาน) ทว่า สินค้าของ Faber-Castell นั้นรวมมาถึงปากกาหมึกซึมด้วย หนึ่งในนั้นคือ Faber-Castell LOOM ซึ่งเป็นปากกาหมึกซึมขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมทั้งด้ามมารีวิว เป็นหนึ่งในปากการาคาระดับเริ่มต้นที่ไม่ทำให้ทีมงานผิดหวัง

ไรท์ติ้งอินไทย จึงขอนำเสนอรีวิวปากกาหมึกซึมรุ่นนี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

Faber-Castell ที่ไม่ได้มีแต่ดินสอและสีไม้

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น Faber-Castell มักจะได้รับความรู้จักจากการนำผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนสำหรับงานจิตรกรรม และเครื่องเขียนทั่วไป ทว่าธุรกิจของ Faber-Castell นั้นกว้างกว่านั้นมาก แน่นอนว่าตลาดของ Faber-Castell นั้นรวมถึงเครื่องเขียนประเภทหรูหรา (Luxury writing instruments) ด้วย

นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีแบรนด์ลูกในชื่อ Graf von Faber-Castell ซึ่งผลิตปากกาในตลาดสูงกว่าตลาดปกติของบริษัทด้วย โดยผลิตทั้งดินสอ ดินสอกด ปากกาหมึกซึม ปากกาลูกลื่น และปากกาโรลเลอร์บอล ความพิเศษอย่างหนึ่งของ Graf von Faber-Castell คือมีปากกาที่ขึ้นรูปด้วยไม้ จำหน่ายควบคู่กับด้ามที่ขึ้นรูปด้วยโลหะตามปกติ

รู้จักกับ Faber-Castell LOOM

LOOM เป็นหนึ่งในสินค้าตระกูลเครื่องเขียนประณีต (Fine writing instruments) ของ Faber-Castell จุดเด่นในการออกแบบของรุ่นนี้อยู่ที่ตัวด้ามที่มีขนาดใหญ่ จับพอดีมือ และการออกแบบที่เน้นส่วนโค้งเว้า มีจำหน่ายทั้งปากกาลูกลื่น โรลเลอร์บอล และรุ่นที่อยู่ในรีวิวนี้เป็นปากกาหมึกซึมครับ (ข้อมูลจากบริษัท)

อันที่จริง LOOM มีหลายสีและรุ่นให้เลือก ด้ามที่ทีมงานรีวิวในวันนี้เป็นสีเงินเมทัลลิก (Metallic Silver) ตัวด้ามขึ้นรูปจากโลหะทั้งชิ้น และพ่นสีเงินด้านเคลือบ สำหรับทีมงานแล้วนี่คือหนึ่งในปากกาที่ให้สัมผัส (feel) ที่ดี จับแล้วมีความแน่นหนาของโลหะ

บริเวณส่วนหัวปากกา มีโลโก้ของบริษัทเป็นอัศวินบนหลังม้าพร้อมข้อความของแบรนด์ปรากฎอยู่ คลิปหนีบปากกาเป็นคลิปทรงไม่ใหญ่ เว็บไซต์ของบริษัทบอกว่าคลิปปากกามีสปริงอยู่ข้างใน

ด้านบนของปากกาเป็นโลโก้ของแบรนด์แบบนูนต่ำ โลโก้จะหันหัวขึ้นเมื่อมองจากด้านของคลิปหนีบปากกา รายละเอียดของตราสัญลักษณ์เก็บได้ชัดเจนและไม่เลือน

LOOM (และปากการุ่นอื่นของ Faber-Castell) ใช้หลอดหมึกและตัวสูบ (converter) แบบ standard international converter ดังนั้นแล้วจึงสามารถใช้หลอดสูบหมึกของเจ้าอื่นๆ ที่รองรับมาตรฐานเดียวกันได้ทันที

หัวปากกาที่ทีมงานได้มาทดลองใช้เป็นขนาด M บริเวณหัวปากกามีลายจุดเล็กๆ กระจายตัวอย่างเป็นระเบียบ ส่วนตัวแล้วการออกแบบนี้ทำให้ดูทันสมัย เข้ากับปากกาที่เป็นอะลูมิเนียมทั้งด้าม และถูกใจทีมงานมาก

การทดลองเขียน

ทีมงานมีข้อคิดเห็นต่อปากกาด้ามนี้ดังนี้

สัมผัสปากกาและน้ำหนัก

LOOM มีลักษณะด้ามค่อนข้างอวบ การจับทำได้อย่างสะดวกแม้ว่าบริเวณกริป (grip) ของปากกที่ทำออกมาเป็นเส้นจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

ทีมงานวัดน้ำหนักของปากกาได้ดังนี้

• น้ำหนักรวมด้าม ประมาณ 31.2 กรัม
• น้ำหนักเฉพาะปลอก ประมาณ 6.8 กรัม
• น้ำหนักเมื่อถอดปลอก ประมาณ 24.4 กรัม

ทีมงานพบว่าเมื่อเสียบปลอกท้ายปากกาแล้ว น้ำหนักปากกาจะกำลังเหมาะสำหรับการใช้เขียนทั่วไป อย่างไรก็ตามการเขียนโดยถอดปลอกก็ยังพึงกระทำได้

ข้อสังเกตหนึ่งที่ทีมงานพบคือ LOOM น่าจะมีกลไกบางอย่างในปลอกปากกา ที่ทำให้การเสียบปลอกท้ายปากกาไม่ทำให้ตัวปากกาเป็นรอย เนื่องจากการเสียบปลอกปากกาให้ความรู้สึกที่ “ลื่น” เหมือนมียางหรือซิลิโคนมารองรับ มากกว่าการเสียบปากกาเข้าไปตรงๆ ซึ่งในจุดนี้ทีมงานชื่นชอบการใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยเป็นพิเศษ

การไหลของหมึก

LOOM เป็นปากกาที่น้ำหมึกไหลออกมาค่อนข้างมาก (wet) ทำให้เขียนได้อย่างสบสายมือและเส้นไม่ขาดหาย อย่างไรก็ดีข้อควรระวังคือหากเขียนบนกระดาษที่ไม่ใช่กระดาษเกรดดี (เช่น เขียนบนกระดาษสำนักงานทั่วไป) ย่อมให้เส้นที่ใหญ่กว่าปกติ

หัวปากกา

ทีมงานพบว่าหัวปากกา LOOM ให้ความรู้สึกลื่นที่แปลก กล่าวคือการเขียนไม่มีความรู้สึกของหัวปากกาที่ขูดกับกระดาษอยู่เลย แม้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะขนาดหัวปากกาที่ใหญ่ (ทีมงานใช้ปากกาหัว F เป็นปกติ) แต่ทว่าเมื่อเทียบกับปากกาหัว M ที่ทีมงานเคยจับมา ก็ยังต้องบอกว่าลื่นกว่ายี่ห้ออื่นอยู่ และย่อมเป็นปากกาที่ถูกใจผู้ชื่นชอบการเขียนปากกาแบบลื่น

การเขียนด้วย LOOM แทบไม่จำเป็นต้องหา “จุดหมุน” (sweet spot) ของปากกามากนัก เมื่อประกอบกับหัวปากกาที่เขียนได้ลื่น ทีมงานรู้สึกว่าปากกาด้ามนี้เป็นปากกาที่ “ใช่เลย” สำหรับทีมงาน

LOOM ให้น้ำหนักเส้นที่ไม่ต่างกัน (line variation น้อย) หรือหากให้กล่าวคือแทบไม่มีเลย ซึ่งทีมงานมองว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียย่อมขึ้นกับความชอบส่วนบุคคล

การวางจำหน่าย

น่าเสียดายที่ LOOM ไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย อย่างไรก็ดีผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อจากเว็บไซต์ปากกาต่างๆ ได้ (Goulet Pens ขายอยู่ที่ $55, ใน Amazon อยู่ที่ประมาณ $40-45)

สรุป

เมื่อพิจารณาแล้ว LOOM เป็นปากการาคาค่าตัวเหมาะสม หัวปากกาเขียนได้ลื่นและดีจนน่าประหลาดใจ ต่างกับภาพทั่วไปของปากกาหมึกซึมที่จะต้องมีการ “กัดกระดาษ” อยู่บ้างเล็กน้อย ไรท์ติ้งอินไทยแนะนำว่านี่คือหนึ่งในปากกาดี ราคาไม่แพง ที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ ทว่าข้อเสียเดียวสำหรับผู้สนใจในเมืองไทย คือ DKSH ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ไม่ได้นำปากกานี้เข้ามาในบ้านเรา ดังนั้นทางเลือกเดียวที่มีคือสั่งซื้อจากต่างประเทศในราคาประมาณ 45 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาต่อหนึ่งด้าม

แม้ว่าทีมงานไรท์ติ้งอินไทยจะแนะนำว่าควรลองปากกาก่อนซื้อทุกครั้ง แต่ทีมงานเชื่อว่า LOOM จะเป็นหนึ่งในปากกาที่ถูกใจใครได้หลายคน โดยเฉพาะผู้เริ่มใช้ปากกาหมึกซึมใหม่ๆ ที่ยังไม่ชินกับสัมผัสการกินกระดาษของปากกา และจะเป็นหนึ่งในปากการะดับต้น (entry level) ที่ทีมงานแนะนำให้ซื้อครับ