23 ตุลาคม 2024
รายงานพิเศษแนะนำ 14 เครื่องเขียนดีเด่นสำหรับปีใหม่ 2019 ที่ไม่ควรพลาด!

แนะนำ 14 เครื่องเขียนดีเด่นสำหรับปีใหม่ 2019 ที่ไม่ควรพลาด!

ไรท์ติ้งอินไทย พาแนะนำปากกาสำหรับซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2019 ในทุกช่วงราคา โดยพิจารณาจากคุณภาพทุกด้าน ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการเขียน (ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของตัวปากกา)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปากกาเป็นหนึ่งในสินค้าที่นิยมมอบให้กันเป็นของขวัญเนื่องด้วยหลายปัจจัย ทั้งความสามารถในการนำไปใช้จริง คุณค่าของตัวของขวัญที่ได้ให้ และที่สำคัญที่สุดคือปากกาบางรุ่นทำหน้าที่ในฐานะ “เครื่องแสดงฐานะ” ที่ผู้ให้สามารถมอบเป็นของล้ำค่าให้กับผู้รับได้เป็นอย่างดี

ไรท์ติ้งอินไทย จึงใช้โอกาสนี้ในการแนะนำปากกาสำหรับซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2019 ในทุกช่วงราคา โดยพิจารณาจากคุณภาพทุกด้าน ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการเขียน (ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของตัวปากกา)

เราคัดเลือกจากอะไร?

เกณฑ์การคัดเลือกปากกาของเรามีดังนี้

  1. ปากกาจะต้องทำหน้าที่ปากกาที่ดี และปากกาที่ดีโดยพื้นฐานคือปากกาที่ให้คุณภาพในการเขียนที่ดี
  2. วัสดุและงานประกอบ ปากกาจะต้องแข็งแรง ทนทาน ใช้วัสดุคุ้มกับราคา
  3. ปากกาจะต้องสามารถทำหน้าที่อย่างอื่น เช่นเครื่องประดับ หรือเครื่องแสดงฐานะ ดังนั้นเราจึงเลือกหยิบปัจจัยในส่วนนี้มาให้คะแนนด้วย
  4. รายการปากกาซึ่งเป็นปากกาที่ทีมงานมอบรางวัล “ดีเด่น” หรือ “แนะนำ” นั้น ต้องมีตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อความสะดวกในการหาซื้อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้อื่น

ทีมงานแบ่งปากกาออกเป็นช่วงราคาต่างๆ กัน โดยมีทั้งหมด 4 ช่วงราคา ดังต่อไปนี้ (สามารถกดที่ช่วงราคา เพื่อไปยังแต่ละช่วงได้): ไม่เกิน 1,000 บาท, ไม่เกิน 3,000 บาท, ไม่เกิน 8,000 บาท และมากกว่า 8,000 บาทเป็นต้นไป


ไม่เกิน 1,000 บาท

ดีเด่น: MUJI Fountain Pen

ไรท์ติ้งอินไทยเคยรีวิวปากกา MUJI Fountain Pen ไปก่อนหน้านี้ (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่) และพบว่าเป็นปากการาคา 450 ที่เขียนดีทีเดียว

เหตุผลให้ทีมงานเลือกเป็นปากกาอันดับหนึ่งในช่วงราคานี้ นอกจากจะเพราะคุณภาพการเขียนแล้ว การออกแบบชิ้นงานที่ให้ความเป็น “มินิมัล” ก็ทำออกมาได้อย่างดี ข้อติของปากกาแท่งนี้มีเพียงสองอย่าง คือการไม่แถมหลอดสูบหมึกมาให้ และบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีแค่ห่อพลาสติก หากจะมอบเป็นของขวัญอาจจะต้องหาอย่างอื่นมาห่อหุ้มเพิ่มสักนิด

ราคา: 450 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: MUJI ทุกสาขา

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: TWSBI Go

ปากกาพลาสติกด้ามค่อนข้างใหญ่จาก TWSBI รุ่นนี้เพิ่งออกวางจำหน่ายได้ไม่นาน ทีมงานไรท์ติ้งอินไทยมีความเห็นว่า TWSBI Go เป็นหนึ่งในปากกาที่เขียนได้ดีในราคาเพียง 700 บาท (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

ข้อกังวลของเราต่อปากกาด้ามนี้มีเพียงสองอย่าง หนึ่งคือตัวด้ามที่เป็นพลาสติกอาจไม่ถูกใจผู้รับในฐานะปากการาคาแพง (แม้ว่าในแง่ของคุณภาพงานประกอบและการเขียนแล้ว TWSBI Go จะสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย) และสองคือระบบเติมหมึกที่เป็นแบบ piston filling ทำให้ต้องใช้หมึกแบบขวดในการเขียนเท่านั้น

แต่หากผู้ที่ต้องการส่งมอบของขวัญให้เป็นผู้ที่กำลังเริ่มต้นใช้ปากกาหมึกซึม แน่นอนว่า TWSBI Go จะเป็นปากกาที่ถูกใจผู้รับอย่างแน่นอน

ราคา: 700 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Artifact Hallmark

สีต่างๆ ของปากกา Artifact Hallmark
สีต่างๆ ของปากกา Artifact Hallmark

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบปากกาหมึกซึม Artifact Hallmark ปากกาสัญชาติไทยจาก DHA Siamwalla ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี ทีมงานประทับใจการออกแบบของปากกานี้ที่มีโทนสีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ (ในรูปมีทั้งโทนเงิน-ทอง, ดำด้าน-เงิน และดำเงา-ทอง) เหมาะกับการเลือกเป็นของขวัญให้กับคนหลากหลายวัย (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

นอกจากนี้แล้วในแง่ของการเขียนก็ทำได้ดี ไส้ปากกาที่ใช้ผลิตโดย Schmidt ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านไส้ปากกา ให้ความรู้สึกดีในการเขียน ทั้งในแง่ความลื่นและการไม่ติดขัดแต่อย่างใด

ราคา: 500-590 บาท (ต่อด้าม) ขึ้นกับสี
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือที่ร้านของ DHA Siamwalla

[กลับไปด้านบน]


ขวัญใจมหาชน: LAMY safari/vista

เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า LAMY safari และรุ่นข้างเคียงอย่าง LAMY vista เป็นปากกาหมึกซึมที่กินส่วนแบ่งตลาดเยอะที่สุดในขณะนี้ แม้ทีมงานจะมองว่ามีปากการุ่นอื่นที่ให้คุณภาพการเขียนในราคาที่ใกล้เคียงหรือถูกกว่า LAMY safari มากๆ แต่ด้วยความนิยม ทีมงานจึงขอมอบตำแหน่ง “ขวัญใจมหาชน” ให้กับปากการุ่นนี้

LAMY safari ได้รับความนิยมจากการออกแบบปากกาที่เรียบง่าย รูปทรงของคลิปหนีบที่เป็นเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเมื่อเหน็บกับกระเป๋าเสื้อ

ราคา: 700-800 บาท (ต่อด้าม) ขึ้นอยู่กับประเภทหัวเขียน (EF จะแพงกว่า)
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, LAMY pop-up shop หรือที่ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


ไม่เกิน 3,000 บาท

ดีเด่น: Caran d’Ache 849

ปากกาในกลุ่ม Caran d’Ache 849 ถูกออกแบบมาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในออฟฟิศ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ Caran d’Ache จากสวิตเซอร์แลนด์นั้นได้ยกระดับมาตรฐานของปากการาคาไม่แพงไปอีกหนึ่งขั้นด้วยปากกาตระกูล 849

ข้อดีหนึ่งของปากกาในตระกูลนี้คือ นอกจากจะมีทั้งปากกาลูกลื่นและปากกาหมึกซึม (อ่านรีวิวปากกาหมึกซึมของเราได้ที่นี่) แล้วนั้น ทาง Caran d’Ache ยังออกสินค้ารุ่นพิเศษให้กับปากกาทางฝั่งลูกลื่นเป็นระยะๆ เช่น Caran d’Ache 849 Nespresso ที่เกิดจากการนำแคปซูลกาแฟ Nespresso มารีไซเคิล (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

นอกจากคุณภาพงานประกอบของปากกาจะดีเยี่ยม (จากวัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูป) แล้ว คุณภาพการเขียนของทั้งปากกาหมึกซึมและปากกาลูกลื่นก็ทำได้เป็นเลิศ เป็นหนึ่งในปากการาคาไม่แพงที่ทีมงานแนะนำเป็นอย่างยิ่ง

ราคา: 2,400 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: แผนกปากกาในห้างสรรพสินค้า, เพจ Caran d’Ache Bangkok หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Parker Urban Muted Black Gold

สำหรับผู้ที่ชอบปากกาโรลเลอร์บอลแล้ว Parker Urban Muted Black Gold น่าจะเป็นหนึ่งในปากกาที่เราคงต้องหยิบมาพูดถึง ไรท์ติ้งอินไทยเคยรายงานก่อนหน้านี้ว่าปากกาด้ามนี้เป็นปากกาที่คิม จอง อึน ใช้เซ็นสัญญาสันติภาพกับสหรัฐอเมริการะหว่างการเยือนสิงคโปร์ของทั้งคู่

Parker เป็นผู้ผลิตปากกาจากสหรัฐอเมริกา ภายใต้บริษัทแม่ Newell Rubbermaid และผลิตปากกาคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่า Parker Urban Muted Gold นั้นมาพร้อมกับการออกแบบที่เรียบหรูด้วยสีดำตัดทอง และรูปทรงที่ถือว่าค่อนข้างโดดเด่น

ราคา: ประมาณ 1,900 บาท แล้วแต่รุ่นและสี (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: ห้างสรรพสินค้า และร้านเครื่องเขียน หรือที่บริษัท Newell Rubbermaid

[กลับไปด้านบน]


ขวัญใจทีมงาน: Faber-Castell LOOM

Faber-Castell LOOM เป็นปากกาด้ามค่อนข้างใหญ่จาก Faber-Castell การออกแบบซึ่งเป็นอะลูมิเนียมทั้งด้านถือว่าทำออกมาได้อย่างเรียบง่าย สามารถพกได้ในทุกสถานการณ์ ทั้งงานทางการและไม่ทางการ

ในแง่คุณภาพการเขียน ทีมงานประหลาดใจกับความรู้สึกที่ปากกาด้ามนี้ให้ กล่าวคือการเขียนด้วยปากกาด้ามนี้แทบไม่แรงส่งกลับ (feedback) จึงทำให้ความรู้สึกขณะเขียนนั้นลื่นและนุ่มอย่างน่าประหลาดใจ (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่)

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ทีมงานไม่สามารถมอบรางวัล “แนะนำ” ให้กับปากกาด้ามนี้ได้ คือการที่ปากกาด้ามนี้ไม่มีผู้จัดจำหน่ายและนำเข้ามาในไทย ต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียวเท่านั้น

ราคา: ประมาณ 1,700 บาท (ต่อด้าม)
ช่องทางจัดจำหน่าย: ช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศ

[กลับไปด้านบน]


ไม่เกิน 8,000 บาท

โดดเด่น: Leonardo Momento Zero

Leonardo Momento Zero Hawaii Blue

หากจะมีปากกาด้ามใดที่อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 8,000 บาท แต่สามารถทำประสิทธิภาพในการเขียนที่ดีมาก ระดับที่เรียกว่าทำลายทุกสถิติ และเป็นปากกาที่หัวทำมาจากเหล็กกล้าไร้สนิม Leonardo Momento Zero เป็นหนึ่งในปากกาด้ามดังกล่าว ด้วยคุณสมบัติการเขียนที่ลื่นมากจนน่าประทับใจ แถมมีความยืดหยุ่นที่หัวติดมาเป็นของแถมด้วย เรียกว่าทำลายทุกสถิติของความน่าประทับใจ ยังไม่นับถึงวัสดุตัวด้ามที่ทำจากเรซินสีสันสวยงามอีกด้วย

ปากการุ่นนี้ จึงขอให้เป็นแชมป์ประจำหมวดนี้ไปโดยไม่ต้องสงสัยครับ

ราคา: 5,550 บาท (ต่อด้าม) ยกเว้นรุ่น Hawaii Blue ราคา 6,650 บาท
ช่องทางจัดจำหน่าย: ร้าน The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


ดีเด่น: Visconti Rembrandt

Visconti Rembrandt เป็นหนึ่งในปากกาที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่เรื่องของการออกแบบที่มีสีสันโดดเด่นกว่าปกติ ระบบการปิดที่ใช้แม่เหล็ก ทำให้ปลอกสามารถดูดเก็บปากกาเข้าไปได้ทันทีอย่างมั่นใจ จนไปถึงเรื่องของหัวที่เขียนได้ดีมาก แทบไม่มีสะดุด

ข้อเสียเพียงประการเดียวของปากการุ่นนี้ คือการที่ใช้หมึกเยอะไปหน่อยเท่านั้น

ราคา: 6,450 บาท (ต่อด้าม)
ช่องทางจัดจำหน่าย: ร้าน The Pips Cafe’

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Sailor 1911 Standard

ในบรรดาผู้ผลิตปากกาหมึกซึมที่ทำผลงานได้น่าประทับใจในแทบจะทุกรุ่น Sailor เป็นหนึ่งในผู้ผลิตนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Sailor 1911 Standard ที่ทีมงานยกให้เป็นปากกาหมึกซึมระดับฟ้าประทาน และเป็นหนึ่งในปากกาไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

หากท่านกำลังคิดจะหาปากกาหมึกซึมดีๆ สักด้ามมาใช้งาน เพราะเขียนได้ลื่น เขียนได้นุ่ม ขนาดเส้นกำลังเหมาะสมแล้ว Sailor 1911 ก็เป็นปากกาที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ข้อเสียคงอยู่ที่การออกแบบซึ่งไม่มีอะไรโดดเด่น และถ้าเป็นรุ่น Standard ตัวด้ามก็ออกจะเล็กไปสักหน่อย

ราคา: 6,800 บาท (ต่อด้าม) สำหรับรุ่น Standard
ช่องทางจัดจำหน่าย: แผนกเครื่องเขียน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, เพจ Sailor & DAKS Thailand หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Caran d’Ache Ecridor

หนึ่งในปากกากลุ่มโรลเลอร์บอลที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเป็นอย่างมาก และใช้งานเขียนได้ดีไม่แพ้ปากกาหมึกซึมหรือปากกาลูกลื่น คือ Caran d’Ache Ecridor ซึ่งทำผลงานการเขียนที่ดีมาก ให้น้ำหนักได้ดีไม่แพ้กัน ตัวปากกาทำมาจากทองเหลือง (brass) แล้วเคลือบด้วยโลหะดีอย่างหนา ใช้งานได้ทนทานอย่างมาก เรียกว่าใครมีปากการุ่นนี้เพียงด้ามเดียว สามารถใช้ไปได้ทั้งชีวิต

นอกจากโรลเลอร์บอลแล้ว บริษัทยังผลิตปากกาหมึกซึม (ที่มีราคาแพงระดับแตะหลักหมื่น) และปากกาลูกลื่น (ที่อยู่ประมาณ 5,000 บาท) สำหรับรุ่นนี้อีกด้วย ใครที่สนใจก็ไม่ควรพลาด มีให้ครบชุดครับ

ราคา: ประมาณ 7,000 บาท (ต่อด้าม)
สถานที่จัดจำหน่าย: แผนกปากกาในห้างสรรพสินค้า, เพจ Caran d’Ache Bangkok หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


8,000 บาท ขึ้นไป

ดีเด่น: Montblanc Meisterstück 149

Montblanc Meisterstück 149
Montblanc Meisterstück 149

คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากสำหรับ Montblanc Meisterstück 149 ที่มาครบครัน ทั้งสถานะของการเป็นปากการะดับสูงด้ามที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ ความนุ่มนวลในการเขียน และการเป็นปากกาที่มีสถานะเป็นปากการะดับสูงที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักอย่างดี ปากการุ่นนี้จึงครองตำแหน่งนี้ไปโดยไม่ยากเย็น และน่าจะเป็นปากกาที่โดดเด่นที่สุดที่เราเคยรีวิวมาแล้ว

ราคา: ประมาณ 30,500 บาท (ต่อด้าม) แล้วแต่สีและรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: ร้าน Montblanc และ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


ดีเด่น: Sailor King of Pen

ภาพจาก Sailor
ภาพจาก Sailor

แม้จะเป็นหนึ่งในปากกาเพียงไม่กี่ด้ามในรายการนี้ที่ทีมงานยังไม่เคยรีวิว แต่ทีมงานเคยมีโอกาสได้สัมผัสมาแล้ว และ Sailor King of Pen (KOP) โดยเฉพาะในรุ่น Ebonite ถือเป็นหนึ่งในปากกาหมึกซึมรุ่นขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ดีที่สุดด้ามหนึ่ง แถมให้ผลงานการเขียนที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

ในเรื่องของขนาด KOP มีขนาดที่ใกล้เคียงกับ 149 อยู่ (ต่างกันเพียงเล็กน้อย) รวมถึงขนาดหัวด้วย แต่จุดที่ทำให้ผู้สะสมปากกาทั่วโลก ต่างชื่นชอบปากการุ่นนี้ อยู่ที่การใช้หัวของปากกาเป็นทองคำ 21 กะรัต ทำให้ได้ความนุ่มนวลในการเขียนที่เหนือกว่าปากกาโดยปกติทั่วไปอย่างมาก

ข้อเสียอย่างเดียวของปากการุ่นนี้ คือยังคงใช้หลอดสูบหมึกอยู่แม้ว่าตัวด้ามจะใหญ่มาก ขณะที่ 149 ใช้ตัวด้ามเป็นหลอดสูบ ทำให้จุหมึกได้มากกว่า ซึ่งถ้าท่านไม่สนใจประเด็นนี้ ปากกาหมึกซึมรุ่นนี้ถือเป็นคำตอบและตัวเลือกที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดครับ

ราคา: ประมาณ 30,000 บาท (ต่อด้าม) แล้วแต่สีและรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: แผนกเครื่องเขียน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, เพจ Sailor & DAKS Thailand หรือบริษัท Capital Good Rich

[กลับไปด้านบน]


แนะนำ: Montblanc Meisterstück Classique

ถ้า Meisterstück 149 มีราคาที่แพงจนเกินไป ทีมงานขอแนะนำ Montblanc Meisterstück Classique ปากการุ่นน้องจาก Montblanc ที่ยังคงแบบฉบับการดีไซน์เช่นเดียวกับตัวใหญ่เอาไว้ได้ครบถ้วน แต่ถือใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกกว่า และรองรับการใช้หมึกหลอดอีกด้วย

เรื่องของประสบการณ์ในการเขียน ถือว่าทำผลงานได้ดีมากไม่แพ้รุ่นใหญ่ ให้ผลงานเขียนที่น่าประทับใจ และยังคงน้ำหนักเบา และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเช่นเดิม เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋วไม่แพ้รุ่นใหญ่

ข้อเสียของปากการุ่นนี้คงอยู่ที่ราคาค่าตัวซึ่งเรียกว่าแพงมาก แต่ถ้าคิดว่าท่านต้องการเครื่องเขียนที่แสดงถึงสถานะของตัวท่าน และเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จแล้ว ปากการุ่นนี้เป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้เต็มที่

ราคา: ประมาณ 18,000 บาท (ต่อด้าม) แล้วแต่สีและรุ่นที่ผลิต
สถานที่จัดจำหน่าย: ร้าน Montblanc และ DKSH ประเทศไทย

[กลับไปด้านบน]


ไม่ว่าปากกาทั้งหลายที่ทีมงานไรท์ติ้งอินไทยแนะนำ จะถูกซื้อเป็นของขวัญให้ผู้ใด (หรือแม้แต่เป็นของขวัญให้ตัวเอง) เราหวังว่ารายการเครื่องเขียนที่หยิบมาแนะนำจะสามารถสร้างความสุขให้กับผู้ที่ได้รับเป็นอย่างดี

ทีมงานไรท์ติ้งอินไทย ขออำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ 🙂

ทีมงานไรท์ติ้งอินไทย
ทีมงานไรท์ติ้งอินไทย
Writing in Thai (ไรท์ติ้งอินไทย) เว็บไซต์รวบรวมเรื่องราวของ ปากกา ปากกาหมึกซึม และเครื่องเขียนอื่นๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ มีทั้งปากกาหมึกซึม ดินสอ ปากกาลูกลื่น ข่าว อัพเดต ความรู้ หมึก การเขียน รีวิว เทคนิค สาระและความรู้

ติดตามเราบน Facebook

เนื้อหายอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

- Advertisement -