ไรท์ติ้งอินไทย รีวิวปากกาตระกูล Sheaffer 100 ปากกากลุ่มเริ่มต้นในระดับพรีเมียมของแบรนด์ Sheaffer ที่ทำผลงานได้ดีมากกว่าที่คาดไว้ครับ
ทำความรู้จักกับ Sheaffer 100
หาก Sheaffer 300 ที่ทีมงานเพิ่งรีวิวไปเป็นรุ่นพรีเมียมที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าแพงไป หรือไม่ก็อาจจะเกินความต้องการ แบรนด์อย่าง Sheaffer เองก็ยังคงมีผลิตภัณฑ์ตัวรองลงมา นั่นก็คือรุ่น 100 ที่ออกมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันครับ
100 เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาในช่วงต้นของปี 2000 พร้อมกับ 300 และ VFM นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ของแบรนด์ ก่อนที่เพื่อนๆ รุ่นใกล้เคียงกันจะค่อยๆ โดนทยอยเอาออกจากตลาดไปจนมีหน้าตาแบบปัจจุบันครับ ซึ่งรุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่ขาย
จุดเด่นที่ชัดเจนของรุ่นนี้ คือการเป็นปากการุ่นที่มีราคาไม่แพง และนับว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับปากกากลุ่มพรีเมียม อย่างที่ได้กล่าวไปตั้งแต่แรก สำหรับหลายคนปากการุ่นนี้อาจจะเป็นด้ามแรกของชีวิตในการก้าวขึ้นไปสู่ปากการะดับสูงในอนาคตครับ
วัสดุหลักของปากการุ่นนี้ยังคงเป็นทองเหลืองอยู่เช่นเดิม (น้ำหนักเลยเยอะตามไปด้วย) อย่างไรก็ตามความหนาและแน่นของวัสดุก็ไม่เท่ากับรุ่นพี่อย่าง 300 แน่นอนครับ สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย จะมีรูปแบบการเขียน 3 รูปแบบ คือ ปากกาลูกลื่น ปากกาหมึกซึม และโรลเลอร์บอล
ข้อมูลจำเพาะของปากกา
ปากกาหมึกซึม
- ความยาวด้าม: 13.86 ซม.
- เส้นผ่าศูนย์กลาง: 1.21 ซม.
- น้ำหนัก: 31.18 กรัม
- หัวเขียน: มีเฉพาะเส้นขนาด M เท่านั้น
ปากกาลูกลื่น
- ความยาวด้าม: 13.61 ซม.
- เส้นผ่าศูนย์กลาง: 1.06 ซม.
- น้ำหนัก: 29.76 กรัม
- ระบบการเขียน: ไส้หมึกของแบรนด์
โรลเลอร์บอล
- ความยาวด้าม: 13.86 ซม.
- เส้นผ่าศูนย์กลาง: 1.27 ซม.
- น้ำหนัก: 34.86 กรัม
- ระบบการเขียน: ไส้หมึกของแบรนด์
แกะกล่องและลองสัมผัสปากกา
เนื่องจากกล่องของรุ่นนี้เหมือนกับรุ่น VFM ทุกประการ ทีมงานจึงถ่ายมาให้ภาพเดียวครับว่าหน้าตาเป็นอย่างไร (ดูเพิ่มเติมได้จากรีวิวของรุ่นเล็กสุดครับ
สำหรับตัวปากกายังคงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ (grand) แบบรุ่นระดับสูงก็ตาม โดยยังคงเน้นความเรียบหรูสำหรับผู้บริหารระดับเริ่มต้น หรือคนที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ครับ
คลิปหรือแหนบปากกายังคงการออกแบบคล้ายเดิม มีช่องว่างระหว่างตัวแหนบและจุดขาวตรงด้านบนของแหนบปากกา
ด้านบนของตัวปากกา มีลักษณะคล้ายกับ Cross Classic Century คือมีการออกแบบที่เป็นจุกอยู่ด้านบน
วงแหวนของปากกามีการลงสีเงินเงาเอาไว้ พร้อมสลักคำว่า Sheaffer รอบวง
สำหรับปากกาหัวหมึกซึม ยังคงตามรอยรุ่นพี่ทุกประการ คือมีลักษณะหัวสั้น ป้อม อ้วน กว่าปากกาปกติทั่วไป
สำหรับในประเทศไทย ปากการุ่นนี้จะจำหน่ายหลากสีสัน โดยทางผู้นำเข้า บริษัท DHA Siamwalla นำเข้ามา 3 สีด้วยกัน ประกอบไปด้วย
- สีน้ำเงินเงาขลิบสีโลหะเงิน
- สีโลหะเงินขลิบทอง
- สีดำขลิบสีโลหะเงิน
ทั้งสามสีจำหน่ายทุกรูปแบบการเขียน ส่วนราคาจะแตกต่างกันไปตามชนิดครับ สำหรับโรลเลอร์บอลและปากกาลูกลื่น ไส้สามารถใช้และแลกเปลี่ยนกับรุ่นอื่นๆ ได้หมดครับ
ทดลองเขียน
เช่นเดียวกับรุ่นที่แล้ว ในการทดสอบนี้ ทีมงานใช้เฉพาะปากกาหมึกซึม เนื่องจากไส้หมึกของรุ่นอื่นนั้น เป็นรุ่นที่เคยรีวิวไปแล้วในรุ่นอื่น ดังนั้นจึงขออนุญาตข้ามไปครับ
ปากกาหมึกซึมรุ่นนี้ ทีมงานทดสอบโดยใช้หมึกหลอดสีดำของ Sheaffer บนกระดาษ A4 ความหนา 80 แกรม ของ Double A ได้ผลดังนี้ครับ
ทีมงานพบว่า ปากการุ่นนี้ทำผลงานได้ต่างจากรุ่นแพงกว่าพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการเขียน หัวปากกาถูกทำออกมาให้กลม ดังนั้นปากกาจึงเขียนได้ลื่นมากในทุกมิติจนทีมงานแปลกใจ
ตัวปากกาไม่ได้มีการกินเนื้อกระดาษเข้าไปเหมือนตัวรุ่นใหญ่ ส่วนขนาดเส้นแม้จะระบุเป็น M แต่ทีมงานรู้สึกว่าอาจจะใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย ในเรื่องของความยืดหยุ่นของหัวเขียน ก็ไม่ต่างจากรุ่นอื่นครับ คือไม่มีความยืดหยุ่นใดๆ เลย
ส่วนที่ทำผลงานได้น่าประทับใจอีกจุดคือการเขียนกลับหัว (reverse writing) ที่ทำผลงานออกมาได้ดีมากกว่าที่คิดครับ เขียนได้ลื่นจนน่าแปลกใจเลยทีเดียว
จุดที่เป็นข้อด้อยของปากการุ่นนี้ เห็นจะเลี่ยงไม่พ้นความเงาของปากกา เพราะความมันเงาของปากกานั้น ทำให้เกิดรอยนิ้วมือที่เห็นได้ชัดเจนมาก นอกจากนั้นเมื่อเทียบกับปากกาโดยทั่วไปแล้ว ปากการุ่นนี้ก็มีความหนักพอสมควรอยู่เช่นกัน (แม้จะเบากว่ารุ่น 300 ก็ตาม)
ราคาและสถานที่จำหน่าย
ราคาจำหน่ายสำหรับปากการุ่นนี้ แตกต่างกันตามสีและประเภทการเขียน ดังต่อไปนี้ (ราคาที่แสดงเป็นราคาต่อด้าม)
สีดำขลิบโลหะเงิน
- ปากกาหมึกซึม: 1,600 บาท / ด้าม
- โรลเลอร์บอล: 1,250 บาท / ด้าม
- ปากกาลูกลื่น: 990 บาท / ด้าม
สีน้ำเงินขลิบโลหะเงิน
- ปากกาหมึกซึม: 1,600 บาท / ด้าม
- โรลเลอร์บอล: 1,250 บาท / ด้าม
- ปากกาลูกลื่น: 990 บาท / ด้าม
สีโลหะเงินขลิบทอง
- ปากกาหมึกซึม: 2,350 บาท / ด้าม
- โรลเลอร์บอล: 1,900 บาท / ด้าม
- ปากกาลูกลื่น: 1,550 บาท / ด้าม
ในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายคือบริษัท DHA Siamwalla ซึ่งมีสินค้าวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในโซนเครื่องเขียน ส่วนราคาในสหรัฐอเมริกาก็มีราคาถูกกว่ากันเล็กน้อย (แต่เพื่อสนับสนุนกิจการของไทย แนะนำให้ซื้อผู้นำเข้าอย่างถูกต้องครับ)
สรุป
เฉกเช่นปากการุ่นใหญ่ Sheaffer 100 ถือเป็นปากกาเริ่มต้นสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการเริ่มเข้าสู่โลกของเครื่องเขียนในระดับพรีเมียมของแบรนด์ ซึ่งทำผลงานได้ดี น่าประทับใจ
จุดเด่นของปากกานี้คือการออกแบบที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ แต่ในเวลาเดียวกันเองก็มีราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไป รวมถึงน้ำหนักที่ลดลงมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง 300 ส่วนมิติเรื่องของการเขียนก็ทำได้ดี ประทับใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปากการุ่นนี้ยังคงเป็นปากกาที่เงาวับ ดึงดูดลายนิ้วมืออย่างมาก และยังถือว่าน้ำหนักมากกว่าปากกาโดยปกติทั่วไปพอสมควร นอกจากนั้นราคายังถือว่าอยู่ในย่านโซนสูงของตลาด ซึ่งมีคู่แข่งที่มากพอตัว
ทีมงานเชื่อว่า ปากการุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์คนที่เริ่มต้นอยากเก็บเครื่องเขียนในระดับพรีเมียม และถือเป็นก้าวเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสะสมสำหรับใครหลายคนครับ
ข้อดี | ข้อเสีย |
ยังคงการออกแบบคลาสสิค | ความเงาของสีที่เคลือบ ทำให้ปรากฎรอยลายนิ้วมือ |
เขียนได้ดีมากกว่าที่คาด | น้ำหนักที่แม้จะเบาลงจากรุ่นก่อน ยังถือว่าเยอะกว่าโดยเฉลี่ย |
ราคาที่อยู่ในโซนสูง แม้จะไม่แพงมากจนเกินไป |
You must be logged in to post a comment.