ในช่วงที่ผ่านมา Visconti มักมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นปากกาที่เขียนได้ดีแต่มีราคาแพง ซึ่งในรอบช่วงปีเศษที่ผ่านมา บริษัทพยายามออกรุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาถูกลงเช่น Mirage และตัวล่าสุด Visconti Breeze นับว่าเป็นปากกาหมึกซึมรุ่นเริ่มต้นของบริษัทที่มีราคาถูกสุดเท่าที่บริษัทเคยวางจำหน่าย แต่ยังคงใช้หัวเขียนและการออกแบบเช่นเดียวกับปากการะดับบนอย่าง Rembrandt หรือ Van Gogh ทำให้ปากการุ่นนี้ได้รับความนิยมจากตลาดมากพอสมควร
ไรท์ติ้งอินไทย ขออนุญาตนำทุกท่านพบกับรีวิวปากการุ่นนี้ ที่นับว่าเป็นรุ่นถูกสุดของค่าย เข้าถึงง่าย ราคาไม่แพงจนเกินไป ที่สำคัญคือเขียนดีมากจนแทบไม่ต้องง้อรุ่นแพง
ที่มาของ Visconti Breeze
หลังจากการปรับโครงสร้างของบริษัทช่วงปี 2016 Visconti ได้เริ่มปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเช่น หัวเขียน หรือ รายละเอียดของผลิตภัณฑ์
แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในการปรับปรุงครั้งนี้ คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเริ่มต้น (entry-level) ของบริษัท ที่แต่เดิมมีเฉพาะ Rembrandt เข้ามาให้มากขึ้น โดยในปี 2018 บริษัทเปิดตัว Mirage ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาท จากนั้นเมื่อช่วงต้นปี บริษัทได้เปิดตัว Breeze ที่มีราคาถูกลงมาอยู่ในช่วง 3,000 บาท กลายเป็นปากกาที่มีราคาถูกที่สุดของบริษัทไปโดยปริยาย
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง Mirage หรือ Breeze จะมีราคาที่ถูกลง แต่คุณสมบัติหลักๆ ที่มีอยู่ในปากกาอย่าง Van Gogh และ Rembrandt ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน เช่น การใช้หัวเขียนแบบใหม่รุ่นเดียวกัน เหมือนกัน, ใช้เรซินสีแบบเดียวกัน รวมถึงใช้กลไกการปิดฝาแบบแม่เหล็กเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะรุ่นถูกหรือแพง คุณสมบัติหลักจะไม่หนีกันมากเท่าใดนัก
ปากการุ่นนี้จึงถือเป็นปากกาที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง และเป็นทางเลือกระดับเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นกับปากกาจาก Visconti โดยมีให้เลือกทั้งปากกาหมึกซึม ปากกาลูกลื่น และปากกาโรลเลอร์บอลครับ
ข้อมูลคุณสมบัติและรายละเอียด
- วัสดุ: เรซินพร้อมลวดลาย ประดับด้วยโลหะเคลือบพัลลาเดียม
- ขนาด: ปกติ
- รูปแบบการเขียน: ปากกาหมึกซึม (หัวเขียนแบบ A66 มีเส้นให้เลือกระหว่าง EF, F, M และ B), ปากกาลูกลื่น, โรลเลอร์บอล
- ระบบหมึก (สำหรับปากกาหมึกซึม): หลอดสูบ หรือ หมึกหลอด รองรับมาตรฐานสากล
- ความยาวด้าม: 14.11 ซม. (ปากกาหมึกซึม), 13.97 ซม. (โรลเลอร์บอล), 13.5 ซม. (ลูกลื่น)
- เส้นผ่าศูนย์กลาง: 1.3 ซม.
- น้ำหนัก: 29 (ปากกาหมึกซึม และ โรลเลอร์บอล) และ 30 กรัม (ลูกลื่น)
- สีที่มีให้เลือก: เหลืองเลมอน, เขียวมะนาว, ส้มจีน, ม่วงลูกไหน, ฟ้าบูลเบอร์รี่, แดงเชอร์รี่
บรรจุภัณฑ์ของปากกา
กล่องของปากกามาด้วยทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบยาวเหมือนแท่ง แปลกตาออกไปจากปากการุ่นอื่นๆ อย่าง Rembrandt ที่ทีมงานเคยรีวิวไปแล้ว ด้านนอกมีแต่กล่องกระดาษหนาสีขาว
ด้านข้างของกล่อง มีช่องที่ถูกเจาะรูกลมเอาไว้ แสดงตราสัญลักษณ์ของบริษัทที่เป็นตัว “V” ส่วนอีกด้านหนึ่งระบุคำว่า “Breeze” ที่เป็นชื่อรุ่น
เมื่อดึงกล่องชั้นนอกออก จะพบกับกล่องด้านในที่เป็นฝากระดาษหนาเช่นกัน มีการประทับตราของบริษัทเป็นสีเงินสะท้อนแสงเอาไว้
ตัวกล่องสีดำอีกชั้น สามารถดึงออกมาจากด้านบน เผยให้เห็นโฟมสีดำและปากกาด้านในผ่านช่องกลมที่เจาะเอาไว้
เมื่อดึงเอาโฟมออก ก็จะพบกับปากกาทั้งด้าม ด้วยดีไซน์และการออกแบบที่คล้ายคลึงกับปากการุ่นใหญ่อย่าง Rembrandt
ถ้าดึงออกมาอีกชั้น จะพบกับใบรับประกันครับ
ลักษณะภายนอกของปากกา Visconti Breeze
ตัวปากกายังคงลักษณะภายนอกแบบเดียวกับรุ่น Rembrandt ทุกประการ กล่าวคือมีทรงที่ค่อนข้างตรงสมมาตร ปลายมนทั้งสองด้าน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะเป็นคลิปหนีบ ไปจนถึงลวดลายของเรซินที่ใช้
จุดที่แตกต่างใหญ่ๆ มีอยู่ด้วยกัน 4 จุด ประกอบไปด้วย
- วงแหวนรอบปากกา แต่เดิมที่เคยติดกับปลอกปากกาด้านบน ตอนนี้เปลี่ยนมาติดอยู่กับที่ตัวด้ามปากกา
- ระบบ My Pen System ซึ่งเป็นระบบที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใส่ตัวอักขระหรืออัญมณีไปประดับ หายไป
- บริเวณที่จับ (grip/section) แต่เดิมใช้โลหะทั้งหมด เปลี่ยนมาเป็นเรซิน
- คลิปหนีบปากกา ถูกปรับปรุงให้สามารถสอดปากกาเข้าไปหนีบได้เลย ไม่ต้องจับคลิปแล้วยกขึ้นเพื่อหนีบอีกแล้ว
นอกจากนั้น ทุกอย่างยังแทบจะเหมือนเดิมทุกประการเมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่ครับ
สำหรับส่วนจับปากกาเขียน (grip/section) จะลู่ลงเล็กน้อย และใช้วัสดุเป็นเรซินดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
ในส่วนของหัวปากกา แม้จะใช้แบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีข้อแตกต่างประการหนึ่งที่ชัดเจนคือการประทับขนาดเส้น (EF, F, M, B) มาให้ส่วนล่างของชื่อ Visconti ทำให้ทราบทันทีว่าเป็นหัวขนิดใด จากเดิมที่ต้องอาศัยการเดาขนาดจากวงกลมอย่างเดียว ในจุดนี้นับว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อหัวปากกาเหมือนเดิม ก็สามารถใช้กับปากกาที่ใช้หัวลักษณะนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Van Gogh, Rembrandt รุ่นใหม่ๆ หรือ Mirage ก็ได้ด้วย
เล่าประสบการณ์ทดลองเขียนและใช้จริง
เนื่องจากหัวของปากกาไม่ได้แตกต่างจากรุ่นที่เคยรีวิวใน Rembrandt จึงขออนุญาติที่จะเล่าแค่ประสบการณ์ในการทดลองเขียนของปากการุ่นนี้ครับ
โดยภาพรวม ประสบการณ์ในการเขียนไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อน ความแตกต่างที่ชัดเจนคือเรื่องของน้ำหนักที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า “เบาขึ้น” ส่วนอื่นๆ ยังคงทำงานได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเขียนที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
เรื่องของการพกพาปากการุ่นนี้ ต้องยอมรับว่ายังเท่าเดิม ด้วยขนาดของปากกา (footprint) ไม่หนีห่างจากรุ่นเดิมนัก ทำให้เรื่องการใช้ยากนั้นไม่ปรากฎอย่างชัดเจนครับ เรียกได้ว่าพอๆ กับรุ่นแพงนั่นเอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการปิดฝาด้วยแม่เหล็ก รวมถึงเรซินที่ออกจะเป็นรอยง่ายสักหน่อย ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมครับ
ราคาและสถานที่ซื้อ
ในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Visconti คือร้าน The Pips Cafe’ ร้านจำหน่ายปากกาหมึกซึมและอุปกรณ์เสริมเฉพาะทางของประเทศ ที่ตั้งอยู่ ณ อาคารธนิยะ บีทีเอส วิง ซอยธนิยะ ถนนสีลม
สำหรับราคาของปากการุ่นนี้อยู่ที่ด้ามละ 3,950 บาท ครับ มีด้วยกันหลากหลายสี ดูได้ที่นี่ครับ
สรุป
ในภาพรวม ปากการุ่นนี้ยังคงคุณสมบัติเหมือนกับรุ่นหลักๆ แต่เดิมแทบจะทุกประการ นอกจากนั้นยังมีการแก้ไขรวมถึงปรับปรุงในบางส่วนอีกเล็กน้อย ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ปากกาใช้งานได้ดีขึ้น และตัดส่วนไม่จำเป็นอย่าง My Pen System ออกไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวปากกาย่อมมีความน่าซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามจุดที่ทีมงานยังคงกังวล ไม่ว่าจะเรื่องความยั่งยืนในกลไกปิดฝาแบบแม่เหล็ก ไปจนถึงการเป็นรอยง่ายของเรซิน ยังคงอยู่ทุกประการ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ปากการุ่นนี้น่าซื้อน้อยลงแต่ประการใด เพราะด้วยราคานี้ต้องยอมรับว่า “สมเหตุสมผล” เป็นอย่างมาก
สำหรับทีมงานแล้ว หากท่านต้องการมีปากกาจาก Visconti ไว้ในครอบครอง โดยที่ราคาไม่แพงมากจนเกินไป และใช้งานได้ดีเทียบเท่ากับรุ่นที่ราคาสูงแล้วนั้น Visconti Breeze ถือเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับทีมงาน และทีมงานไม่คิดว่าจะมีปากกาใดที่ตอบโจทย์ความต้องการลักษณะแบบนี้ ได้ดีเท่าปากการุ่นนี้
เครดิต
สถานที่: The Precious Plus Lounge ธนาคารกรุงไทย สาขาสยามพารากอน
ข้อมูล: Visconti, The Pen Addict, Appelboom, The Goulet Pen Company
ภาพและข้อเขียน: ภัทรนันท์ ลิ้มอุดมพร
You must be logged in to post a comment.