ช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไรท์ติ้งอินไทย รายงานว่าทาง Visconti เปิดตัวสีใหม่สำหรับปากการุ่น Van Gogh ซึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงสิ้นปีนี้ ทันเทศกาลและฉลองปีใหม่พอดิบพอดี ซึ่งก็ไม่ต้องรอนานเมื่อ The Pips Cafe’ ตัวแทนจำหน่ายปากกาของแบรนด์รายเดียวในประเทศไทยขณะนี้ ได้นำปากการุ่นนี้เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว
ทีมงานได้มีโอกาสไปลองจับ ลองเขียน และพรีวิวปากการุ่นใหม่นี้แล้ว ส่วนจะสวยแค่ไหน ติดตามได้จากพรีวิวนี้ครับ
สีใหม่สดใส จากภาพวาดที่งดงาม
ปากกา Van Gogh ถือเป็นปากกากลุ่มเริ่มต้นของค่าย Visconti ที่เริ่มต้นด้วย Rembrandt ซึ่งทีมงานเคยรีวิวไปแล้ว จากนั้นจึงตามด้วยรุ่นนี้ ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากรุ่นล่างสุดตรงที่มีการเพิ่มเหลี่ยม (facet) ให้กับตัวปากกา ไม่ใช่กลมเกลี้ยงเรียบทั้งด้ามแบบ Rembrandt ส่วนหัวเขียนและระบบการปิดทุกอย่างยังเหมือนเดิม
นอกจากนั้นแล้ว สีสันของรุ่นนี้ก็มากกว่าปกติ มีการใส่ลูกเล่นลงไปในเรซินจากธรรมชาติ (vegetal resin) ด้วย แต่สิ่งที่ตามมาคือราคาที่สูงกว่ารุ่นปกติมากพอสมควร
Visconti ทำสีของปากกาในรุ่นเลียนแบบสีภาพวาดของ Van Gogh สีต่างๆ เช่น Starry Night, Chair, Portrait, Iris เป็นต้น และก็เฉกเช่นสีใหม่ ที่เลียนแบบสีของภาพวาด โดยสีชมพู จะเป็นสีจากภาพ Souvenir de Mauve และสีเขียว-น้ำเงินที่มาจากภาพ Wheatfield under Thunderclouds นั่นเอง
บริษัทเริ่มวางจำหน่ายปากการุ่นนี้ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป โดยในระยะแรกจะมีการแถมหมึกมาให้ในกล่อง ซึ่งสีหมึกจะสอดคล้องกับสีของปากกาด้วย
เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ทีมงานได้พรีวิวปากการุ่นนี้ จึงอาจจะละเอียดกว่าพรีวิวรุ่นอื่นพอสมควร อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องประสิทธิภาพการเขียน รุ่นนี้ใช้หัวเดียวกับ Rembrandt ดังนั้นใครที่อยากรู้ว่าประสิทธิภาพในการเขียนเป็นอย่างไร สามารถอ่านรีวิวเก่าได้ทันทีครับ
ราคาและสถานที่ซื้อ
ในปัจจุบัน ตัวแทนจำหน่ายปากกา Visconti ในประเทศไทยคือร้าน The Pips Cafe’ ซึ่งมีปากการุ่นนี้วางจำหน่ายอยู่ในราคา 9,250 บาท และเริ่มต้นเปิดวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ
บรรจุภัณฑ์และตัวปากกา
เนื่องจากปากการุ่นนี้ประกอบไปด้วย 2 สีใหม่ คือ Wheatfield under Thunderclouds และ Souvenir de Mauve ทีมงานจึงขอพรีวิวทีละด้าม เพื่อให้เห็นถึงรายละเอียดปลีกย่อยได้เต็มที่ครับ
Wheatfield under Thunderclouds
สำหรับสี Wheatfield under Thunderclouds เป็นสีใหม่ที่มาจากสีน้ำเงิน-เขียว และมีสีฟ้าเข้ามาแทรกด้วย ที่กล่อง จะมีการพิมพ์ภาพวาดเอาไว้ บ่งบอกว่าสีของปากกาหมึกซึมในกล่องเป็นรุ่นไหน
เมื่อเปิดแง้มกล่องออกมา จะพบกับปากกา เอกสาร และหมึกสีชื่อเดียวกับปากกา ซึ่งแถมมาในกล่อง (เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น)
ตัวปากกามีความคล้ายคลึงกับ Rembrandt อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกลไกเรื่องของการเปิดและปิดปลอก ไปจนถึงส่วนหัวของปากกา จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือเรื่องของปากกาที่มีเหลี่ยมในแต่ละด้าน ไม่ใช่กลมเกลี้ยง, หัวและท้ายเป็นแบบตัดเรียบ และอย่างสุดท้ายคือลูกเล่นสีสันของเรซินมีมากกว่าครับ
ลูกเล่นและสีสันของปากกา ต้องเรียกว่า กินขาดรุ่น Rembrandt ไปไกลมาก แม้จะยังคงใช้คลิป/แหนบ แบบเดียวกัน รวมถึงวิธีการสลักและใช้ระบบ Visconti My Pen เหมือนกันก็ตาม
สำหรับปากการุ่นนี้ สีจะคล้ายคลึงกับรุ่น Portrait พอสมควร แต่สำหรับ Portrait สีจะเป็นฟ้าและขาวผสมกัน จะดูสว่างกว่าเล็กน้อยครับ
Souvenir de Mauve
เช่นเดียวกับสีก่อนหน้า Souvenir de Mauve เป็นรุ่นที่ใช้สีชมพูและขาวเป็นสีหลัก คล้ายคลึงกับสีลูกท้อหรือพีชของจีน หรือสีของดอกซากุระ สวยงามไปอีกแบบครับ มีการพิมพ์ภาพวาดไว้บนกล่องอย่างสวยงาม เปิดออกมาก็พบกับเอกสาร ปากกา และหมึก
สีสันของปากกาให้ความรู้สึกเย็นๆ สบายๆ นุ่มนวลชวนฝันเป็นอย่างยิ่ง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็ไม่ต่างจากสีอื่นครับ
สรุป
แม้ทีมงานจะไม่มีความเห็นสำหรับเรื่องของการเขียน เนื่องจากใช้หัวประเภทเดียวกับ Rembrandt ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของค่ายและเคยรีวิวไปแล้ว แต่กับสีปากการุ่นนี้ทีมงานมีความรู้สึกว่าสีสันสวยงามทั้งสองสี เป็นอีกสีที่ท่านควรพิจารณาหากจะซื้อปากการุ่นนี้มาใช้งานครับ เพราะสีเป็นเอกลักษณ์ และแต่ละด้ามก็ไม่เหมือนกันแม้แต่ด้ามเดียวในเรื่องลักษณะของสี ดังนั้นแล้วจึงเป็นปากกาที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งหากท่านต้องการซื้อเก็บในฐานงานศิลปะแบบหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ทีมงานแนะนำว่าถ้าท่านต้องการซื้อปากการุ่นนี้ เวลาที่ดีที่สุดก็อาจเป็นช่วงนี้ที่มีหมึกแถมมาให้พร้อมกับปากกาด้วย พ้นจากนี้ไปก็จะไม่มีหมึกแถมให้ จะไม่คุ้มค่าเท่ากับเวลานี้อย่างแน่นอนครับ
เครดิต
ขอบคุณร้าน The Pips Cafe’ ที่อนุญาตให้ทีมงานได้ถ่ายปากกาถึงร้านอย่างใกล้ชิดครับ
You must be logged in to post a comment.