ตัวผู้เขียนเองเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้ปากกาหมึกซึมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบันทึกทั่วไป การจดเลคเชอร์ การใช้ในการเซ็นเอกสาร รวมถึงการเป็นเครื่องประดับข้างกายชิ้นหนึ่งในบางครั้ง และหมึกที่ผู้เขียนชอบใช้คือสีน้ำเงิน (blue) วันนี้ ผู้เขียนขออนุญาตนำเสนอรีวิวเปรียบเทียบหมึกสีน้ำเงินที่เรียกว่า Royal Blue ระหว่างแบรนด์ Montblanc และ Pelikan หมึกปากกาหมึกซึมจากสองผู้ผลิตเครื่องเขียนแบรนด์ดังระดับโลก
หมึกสีนํ้าเงิน (Blue) นั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในสีสำคัญของหมึกปากกาที่เป็นที่นิยมใช้ในการเขียนทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปากกาหมึกซึม ลูกลื่น หรือโรลเลอร์บอลก็ตาม หมึกสีนํ้าเงินมักเป็นสีที่ผู้เขียนพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
สำหรับสี Royal Blue นั้น มีความเป็นมา โดยข้อมูลจาก Canva ระบุว่า สีนี้เป็นสีที่ชนะในการแข่งขันเพื่อทำสีขึ้นสำหรับการตัดฉลองพระองค์ของพระราชินีนาถชาร์ล็อตต์ (Queen Charlotte 1744-1818) แห่งสหราชอาณาจักร มีความหมายของสีที่มีความเกี่ยวข้องกับความเหนือกว่า (Superiority)
![](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-07-22.10.28_DxOwm.jpg)
ว่าด้วยหมึก Royal Blue ของ Montblanc และ Pelikan
แบรนด์ทั้งสองนั้นล้วนถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติศาสตร์มาเป็นเวลานานในเรื่องอุปกรณ์การเขียน ในด้านปากกาหมึกซึมของ Pelikan นั้นอาจไม่แพร่หลายนักในประเทศไทย เนื่องจากในปัจจุบันไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายโดยทั่วไป แต่ก็สามารถพบอุปกรณ์การเขียนในระดับตลาดล่างและกลางได้ตามร้านขายเครื่องเขียนอย่างเช่นร้านสมใจ สินค้าที่ทำตลาดในไทยอย่างเช่นปากกาลูกลื่นปากกาเน้นข้อความ หมึกปากกา และปากกาหมึกซึมสำหรับหัดเขียนอย่าง Pelikano เป็นต้น
ในขณะที่ Montblanc นั้นมีชื่อเสียงอยู่ในกลุ่มสินค้าหรูหราและมีราคาสูง โดยมีร้านสาขาตั้งอยู่ในห้างระดับพรีเมียมใจกลางกรุงเทพรวมถึงการซื้อผ่านร้านปลอดภาษีในสนามบิน
![เปิดกล่อง](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-07-22.11.16_DxOwm.jpg)
Montblanc Royal Blue
![Montblanc](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-08-00.14.10_DxOwm.jpg)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้รู้จักหมึกของ Montblanc จากการเข้าไปลองปากกาในร้าน และพนักงานได้นำหมึกสีนี้มาใช้ในการลองเขียน ผู้เขียนเริ่มเกิดความชื่นชอบในหมึกสีดังกล่าวที่มีความออกนํ้าเงินม่วงและให้ความรู้สึกว่าสีมีความเข้มมากกว่าสีของหมึก Pelikan ที่ใช้อยู่ประจำ จึงได้ลองซื้อมา 1 ขวด นอกจากนี้ยังมีแบบหมึกหลอดแบบมาตรฐาน (International standard cartridge) วางจำหน่ายด้วย
ราคา: 900 บาท สำหรับ 60 มล. (ราคา ณ เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ร้าน Montblanc สาขา Emporium)
บรรจุภัณฑ์ของหมึกยังเต็มไปด้วยความหรูหรา (ไม่ต่างจากหมึก Irish Green) ออกแบบมาเป็นกล่องมีลิ้นชักให้ดึงออกมา
Pelikan Royal Blue
![Pelikan 4001](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-08-00.13.31_DxOwm.jpg)
เดิมทีนั้นผู้เขียนเริ่มทำความรู้จักหมึกสีดังกล่าว จากการเข้าไปในร้านสมใจและพบหมึก Pelikan 4001 ซึ่งนับว่าเป็นหมึกที่มีสีสวยอยู่พอสมควร ไม่ได้มีสีที่ฉูดฉาดเกินไปสำหรับการเขียนทั่วไป และมีราคาที่ไม่แพง (ผู้เขียนได้มาในราคา 120 บาทสำหรับขนาดความจุ 62.5 มล. เมื่อกลางปี 2560) นอกจากนี้ยังเป็นหมึกที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยากนัก เช่นร้านสมใจที่สยามสแควร์และศาลาแดง ร้านสยามมาร์เก็ตติ้งที่ CentralWorld หรือร้าน minimor ที่ห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต
ราคา: อยู่ในระดับราคาประมาณ 120-200 สำหรับ 62.5 มล. ราคามีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสาขาและล๊อต บางครั้งผู้เขียนเจอป้ายระบุราคาที่ต่างกันในสินค้าสองชิ้นแม้ว่าจะเป็นสินค้าตัวเดียวกัน นอกจากนี้ในร้านค้าบางสาขาจะมีขวดขนาด 30ml ในราคาที่ถูกกว่า
บรรจุภัณฑ์เป็นขวดหมึกที่บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษธรรมดา และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีข้อดีในเรื่องของการประหยัดพื้นที่การจัดเก็บ
![ตัวไหนคือตัวไหนเอ่ย?](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/Royal-Blue-v-Royal-Bluewm.jpg)
เทียบทั้งสองหมึก Pelikan vs. Montblanc
![](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-07-22.11.37_DxOwm.jpg)
สำหรับการทดสอบการเขียนนั้น ผู้เขียนเองมองว่ากระดาษเป็นสิ่งสำคัญในการแสดงถึงศักยภาพของหมึกจึงได้ลองนำกระดาษต่างๆที่ผู้เขียนใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึง โดยปากกาที่ใช้นั้นจะมี Sailor Fude de Mannen สำหรับเส้นขนาดใหญ่กว่าปกติและ Sheaffer 100 สำหรับเส้นขนาด M
คำแนะนำ: ภาพสแกน (ใช้เครื่องสแกน Epson L220) การปรับสีและความสว่างของจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือปากกากระดาษที่ใช้ย่อมมีผลต่อสีที่ท่านได้รับชม
ผู้เขียนใช้เวลา 2-3 วันนับจากการเริ่มร่างบทความจนมาถึงวันที่แสกนภาพจากกระดาษเหล่านี้ สีหมึกจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่พอสมควร (จางลง) โดยผู้เขียนมองว่าสีหมึกจากกระดาษ Leuchtturm1917 และ C.D. Notebook นั้นคงสภาพที่ใกล้เคียงจากสีที่ออกมาเมื่อเริ่มเขียนมากที่สุด
กระดาษถ่ายเอกสาร (ไม่ทราบว่าเป็น Double A หรือ SCG)
![กระดาษถ่ายเอกสาร (ไม่ทราบว่าเป็น Double A หรือ SCG)](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/CopyPaperwm.jpg)
ส่วนตัวผู้เขียนมองว่ากระดาษดังกล่าวทำให้หมึกสีจางเร็วแต่ยังพอเห็นความแตกต่างอยู่บ้าง หมึก Pelikan นั้นออกไปทางนํ้าเงิน ในขณะที่ Montblanc ให้ความรู้สึกไปทางนํ้าเงินกึ่งม่วง หมึกทั้งสองตัวนี้ไม่กันนํ้าแต่อย่างไร จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้ในเอกสารที่เป็นทางการหรือการเซ็นเอกสาร หมึกทั้งสองตัวแห้งเร็วกับกระดาษนี้ (เนื่องจากซึมไปด้านหลังหมด)
LEUCHTTURM1917
![LEUCHTTURM1917](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/L1917wm.jpg)
Leuchtturm1917กระดาษดังกล่าวให้ความคงทนของสีที่มากกว่าและใกล้เคียงกับที่ตาของผู้เขียนเห็นมากที่สุด แต่ต้องขออภัยที่มีกระดาษนี้อยู่จำกัดจึงไม่ได้ทดสอบมากเท่าที่ควร (Pelikan: ซ้าย Montblanc: ขวา)
C.D. Notebook
![](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/CD-NB1wm.jpg)
กระดาษสมุดดังกล่าวถือว่าเป็นกระดาษที่กันซึมได้ดีที่สุดที่ผู้เขียนมี หมึกปากกาทั้งสองด้ามจึงไม่ได้ทำร้ายเนื้อกระดาษสมุดที่ผู้เขียนใช้ ควบคู่กับการที่ตัวปากกาที่ใช้ไม่ได้เป็นปากกาที่นํ้าหมึกไหลออกมาแรงมาก
อย่างไรก็ตามจากการที่ลองเขียนโดยทั่วไปมาบ้าง ผู้เขียนพบว่าหมึกของ Montblanc ค่อนข้างซึมกระดาษได้ง่ายกว่า แต่ก็มีการไหลของหมึกที่แรงกว่า ในขณะที่การแห้งนั้นทั้งสองล้วนเป็นหมึกที่ใช้เวลาแห้งไม่นานแต่ก็ไม่เร็ว โดยอยู่ที่ประมาณ 10-20 วินาที (ขึ้นอยู่กับปากกาการลงนํ้าหนักและกระดาษ)
![](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/CD-NB2wm.jpg)
หมึกทั้งสองตัวให้ต่างสามารถแสดงถึง shade ได้จากหมึกของตนเองที่มีความหนักเบาแตกต่างกันไปในขณะที่ยังไม่เห็น sheen หรือเงานัก (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกระดาษ) โดยผู้เขียนมองว่าหมึกของ Montblanc สามารถให้นํ้าหนักของสีที่เด่นกว่า Pelikan
โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่าหมึกสีนี้ในทั้งสองแบรนด์เป็นหมึกที่เหมาะสมสำหรับการใช้เขียนทั่วๆ ไป เป็นสีที่ให้ความรู้สึกหรูหราสง่างาม โดยทั้งสองตัวยังมีความแตกต่างกันอยู่ ผู้เขียนมองว่าเป็นเรื่องของความพึงพอใจในแต่ละคน อย่างไรก็ตามหมึกของ Montblanc นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่สำหรับตัวผู้เขียนเอง จึงอาจไม่แนะนำนักหากท่านมิได้ชื่นชอบเป็นพิเศษหรือต้องการใช้หมึกสำหรับปากกา Montblanc โดยเฉพาะ
ขวดหมึกปากกาที่ต่างกับสีที่แตกต่างกัน
จากการที่ผู้เขียนลองเทียบระหว่างหมึกปากกาทดสอบของทางร้าน กับหมึกที่พึ่งเปิดขวดมาใหม่ล่าสุดพบว่ายังมีความแตกต่างกันอยู่ โดยหมึกทดสอบของทางร้านมีสีที่เข้มและออกนํ้าเงินดำอมม่วงมากกว่า ในขณะที่สีจากหมึกที่เปิดใหม่นั้นให้ความเป็นโทนม่วงมากกว่า
![เส้นบนเป็นการขีดแบบ Reverse ของ Montblanc LeGrand 146 หัวขนาด M](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/OBBwm.jpg)
ผู้เขียนมองว่าระยะเวลาการเปิดใช้งานขวดหมึกการเก็บรักษากับปากกาที่แตกต่างกัน (ตัวทดสอบของทางร้านเป็น Montblanc LeGrand (146) ที่หมึกไหลมากกว่าปกติ เมื่อเทียบกับ Sailor หรือ Sheaffer 100 ที่จ่ายหมึกไม่มากเท่า) หรือแม้กระทั่งหัวปากกาคนละขนาด ในรุ่นเดียวกัน (จากตัวอย่างของร้าน Montblanc ที่เป็น OBB กับ M) ย่อมส่งผลต่อสีหมึก ผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์กับสีหมึกที่แตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นหมึกรุ่นและสีเดียวกันในยี่ห้ออื่นมาแล้วเนื่องจากผลิตมาคนละเวลากัน (lot)
![](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/Differenceswm.jpg)
โดยส่วนตัวผู้เขียนยังคงติดใจสีหมึกทดสอบของร้านมากกว่า และคงปล่อยให้หมึกที่ซื้อมาเองเริ่มเก่าขึ้นสักพักจึงจะนำมาใช้มากขึ้น
สรุป
![Royal Blue: Pelikan vs. Montblanc](https://writing.in.th/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-07-22.09.47_DxOwm-1024x576.jpg)
หมึกทั้งสองตัวล้วนเป็นหมึกที่เหมาะกับการใช้ในการเขียนทั่วไป โดยเฉพาะ Pelikan ที่ออกโทนไปทางนํ้าเงินเข้มมีราคาที่ไม่แพง หรือหากต้องการความหรูหรา อาจเลือก Montblanc ที่มีโทนสีที่ดูหรูสง่าขึ้นมาและมีราคาที่หรูหราตาม อย่างไรก็ตามหมึกทั้งสองตัวนั้นไม่กันนํ้าจึงไม่เหมาะสำหรับการเซ็นเอกสารการเขียนเอกสารทางการหรืองานเขียนที่ต้องการความคงทน
You must be logged in to post a comment.