TWSBI เป็นผู้ผลิตปากกาจากไต้หวันซึ่งถือครองตลาดปากการะบบ piston filling อยู่จำนวนมาก ด้วยราคาที่ไม่แพงและคุณภาพการเขียนที่ได้รับการยอมรับ เมื่อไม่นานมานี้บริษัทเพิ่งเปิดตัวปากกา TWSBI Go ปากกาหมึกซึมราคาต่ำที่สุดของบริษัท ที่ผสมผสานการเติมหมึกระบบ piston filling และระบบสปริง จนได้ระบบสูบหมึกใหม่ที่เคลมว่าใช้งานได้ง่ายและสะดวกออกมา

ไรท์ติ้งอินไทยขอเสนอรีวิวปากการุ่นดังกล่าวที่เป็นปากกาหมึกซึมราคาไม่แพง แต่มีประสิทธิภาพดีเกินค่าตัวครับ

อะไรคือกลไก piston filling?

ผู้ใช้ปากกาหมึกซึมจำนวนมากมักเคยชินกับการเติมหมึกสองประเภท ได้แก่การใช้หมึกหลอด (cartridge ink) หรือหลอดสูบหมึก (converter) ซึ่งกลไกทั้งคู่นั้นอาจนับได้ว่าไม่ได้ฝังอยู่ภายในตัวปากกา เนื่องจากทั้งหมึกหลอดและหลอดสูบหมึกสามารถถอดออกมาได้อย่างอิสระ

อย่างไรก็ตาม มีปากกาหมึกซึมจำนวนมากในตลาดที่มาพร้อมระบบ piston filling กลไกดังกล่าวเสมือนทำงานเป็นการผสานกลไกสำหรับสูบหมึกไว้ภายในตัวปากกาโดยตรง คิดค้นครั้งแรกโดยชาวโครเอเชีย และบริษัทที่ซื้อสิทธิบัตรนำมาผลิตปากกาครั้งแรก คือ Pelikan ในปี ค.ศ. 1929

โดยปกติปากการะบบ piston filling จะใช้วิธีการหมุนก้านสูบหมึกซึ่งอยู่บริเวณด้าม เพื่อสูบหมึกจากหลอดสูบเข้าไป แต่สำหรับปากกา TWSBI Go ด้ามนี้ เลือกผสมผสานกลไก piston filling กับกลไกแบบสปริง ที่ทำให้สูบหมึกได้ด้วยการกดสปริงท้ายปากกาอย่างเดียว

รู้จักกับ TWSBI

TWSBI เป็นผู้ผลิตปากกาสัญชาติไต้หวัน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากโรงงานของบริษัท Ta Shin Precision ที่ผลิตปากกาแบบ OEM (ผลิตปากกาส่งให้แบรนด์อื่น) จำหน่ายออกสู่ตลาด

จุดเปลี่ยนของโรงงาน Ta Shin Production คือการตัดสินใจขยายตลาดหลังผลิตปากกาส่งให้บริษัทอื่นเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี มาเป็นการผลิตปากกาภายใต้แบรนด์ TWSBI จำหน่ายด้วยตัวเอง

ชื่อยี่ห้อ TWSBI มาจากการกลับตัวอักษรตัวแรกของวลี “San Wen Tong” ซึ่งในภาษาจีนแปลว่า “สามวัฒนธรรม” โดยคำว่า “Wen” นั้นแปลว่าภาษาและวัฒนธรรม นำมารวมกับตัวอักษร “BI” ซึ่งแปล่วาอุปกรณ์เครื่องเขียน จึงได้มาเป็นชื่อแบรนด์

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือปากกาหมึกซึม ซึ่งเอกลักษณ์หนึ่งของแบรนด์คือการป้อนปากกาหมึกซึมระบบ piston filling จำนวนมากสู่ตลาดปากกา อย่างไรก็ตามบริษัทยังผลิตปากกาลูกลื่น และดินสอกดด้วยเช่นกัน แต่มีจำนวนรุ่นให้เลือกน้อยมากเมื่อเทียบกับปากกาหมึกซึม

การเปิดตัวรุ่น Go ทำให้ราคาของปากกาจากบริษัทที่ต่ำที่สุดนั้นลดลงมาอีก จากเมื่อก่อนเป็นรุ่น Eco ที่วางจำหน่ายในราคา 1,100 บาท

แรกสัมผัส TWSBI Go

TWSBI Go มาในกล่องพลาสติกสีขาว ห่อหุ้มด้วยกระดาษห่อสีน้ำตาล พิมพ์ตามสัญลักษณ์บริษัท ตัวกล่องสีขาวมีสลักคำว่า “TWSBI” แบบนูนต่ำ ขนาดของกล่องใกล้เคียงกับปากกาเป็นอย่างมาก

เมื่อเปิดกล่อง จะพบเพียงปากกา TWSBI Go ที่ยึดเข้ากับกล่องด้วยโฟมเจาะรู และคู่มือการใช้งาน ตัวคู่มือไม่บอกรายละเอียดมากนอกเสียจากกลไกการเติมหมึกของปากกาทำงานอย่างไร

ปากกามีให้เลือกสีสองสี ได้แก่สีดำ และสีน้ำเงิน หัวปากกามีให้เลือกห้าขนาดได้แก่ EF, F, M, B, และ 1.1 Stub

ขนาดและมิติปากกา

• ความยาว 13.3 เซนติเมตร
• เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.6 เซนติเมตร
• น้ำหนักเฉพาะด้าม 13.8 กรัม (เติมหมึกจนเต็มแล้ว)
• น้ำหนักเฉพาะฝา 4.7 กรัม

เมื่อเทียบกับปากกาทั่วไปแล้ว ต้องถือว่าตัวด้ามมีขนาดใหญ่ ด้วยความยาว 13.3 เซนติเมตรและเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 1.6 เซนติเมตร อย่างไรก็ดีด้วยความที่ตัวด้ามขึ้นรูปจากพลาสติกทั้งหมด จึงมีน้ำหนักเบามาก

ด้านบนสุดของปากกาประดับสัญลักษณ์ TWSBI สีแดง บริเวณฝาเป็นพลาสติกขาวขุ่น มีชื่อยี่ห้อ “TWSBI” และชื่อรุ่น “GO” สลักสูง ปากการุ่นนี้ไม่มีแหนบปากกาแต่ประการใด มีเพียงห่วงขนาดเล็กให้สำหรับคล้องปากกา

ด้านท้ายของด้ามเป็นพลาสติกผสมสี มองเห็นกลไกด้านในอย่างชัดเจน แต่สีหมึกที่เติมไว้ภายในถูกปิดทับด้วยสีของพลาสติก ถึงอย่างไรก็อาจนับปากกาด้ามนี้เป็น demonstrator pen หรือปากกาที่เผยให้เห็นกลไกภายในได้อยู่ดี

บริเวณปลายของปากกาขึ้นรูปเป็นทรงสามเหลี่ยม ทำให้สามารถจับได้อย่างถนัดมือ หัวปากกามีขนาดกำลังดี สลักโลโก้และคำว่า TWSBI อย่างไรก็ดีบนหัวปากกาไม่มีบอกขนาดแต่ประการใด

กลไกการเติมหมึกของปากกา

กลไกการเติมหมึกของปากการุ่นนี้ใช้วิธีการหมุนบริเวณตัวด้ามออกมา จุ่มหมึกลงในขวดหมึก แล้วกดบริเวณสปริงท้ายปากกาหนึ่งที เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

ทีมงานค่อนข้างพึงพอใจวิธีการเติมหมึกลักษณะนี้ เพราะเติมได้เร็ว ไม่ชักช้า (เทียบกับการหมุน converter ทั่วไปยิ่งถือว่าเร็วมาก) และสามารถจุหมึกได้เยอะ (ส่วนใหญ่ปากการะบบ piston filling จะจุได้มากกว่า 1 มิลลิลิตร ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับหมึกหลอด (cartridge ink) หรือหลอดสูบหมึก (converter) ปกติ)

อย่างไรก็ดี วิธีนี้มีข้อเสียหลักสองประการ หนึ่งคือปากกา piston filling จะไม่สามารถใช้คู่กับหมึกหลอด (cartridge ink) ได้ และสอง การล้างปากกา piston filling นั้นทำได้ยากลำบากกว่าปกติ

The PIPS Cafe’ ซึ่งเป็นร้านขายปากกาที่ทีมงานซื้อ TWSBI Go มา แนะนำว่าไม่ควรใช้หมึกปากกาชนิดถาวร (permanent) หรือปากกาที่มีผงทองกับปากกาด้ามนี้ เพราะยังไม่มีวิธีการแกะออกมาทำความสะอาด

ทดลองเขียน

ทีมงานทดลองเขียนกับปากกา TWSBI Go หัวขนาด F โดยเขียนบนกระดาษ A4 ของ Double-A น้ำหนัก 80gsm และหมึก Pilot Iroshizuku Shin-Ryoku สีเขียว และมีข้อคิดเห็นดังนี้

ความลื่นในการเขียน

ปากกาไม่ได้ให้ความลื่นในการเขียนที่ลื่นหัวแตก อย่างไรก็ดีความลื่นยังอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ ตัวปากกาไม่กินกระดาษ และทีมงานมองว่าผู้ชื่นชอบในความรู้สึก “ขูดขีด” (scratchy) แบบเล็กน้อยของปากกาหมึกซึมน่าจะชอบปากการุ่นนี้เป็นพิเศษ การเขียนเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีเส้นขาดแต่ประการใด

ความถนัดในการจับ

ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้การจับทำได้ถนัดมือเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดีตัวปากกาถือว่ามีน้ำหนักเบามาก (เพราะขึ้นรูปจากพลาสติกทั้งหมด) และการสวมปลอกปากกาเข้ากับปลายด้าม (pose) ก็ไม่ช่วยให้น้ำหนักขณะเขียนมากขึ้น

การไหลของน้ำหมึก

น้ำหมึกไหลออกมาในปริมาณที่เพียงพอที่จะเขียนอย่างสบายมือ แต่ไม่มากไปจนให้ความรู้สึกว่าเป็นปากกาที่เปียก (wet) โดยรวมทีมงานประทับใจระดับการไหลของน้ำหมึก

การลงน้ำหนักเส้น (line variation)

เป็นที่น่าแปลกใจของทีมงานที่ปากกาด้ามนี้ยังให้น้ำหนักเส้นที่แตกต่างอยู่ อย่างไรก็ดีอาจจะต้องใช้แรงกดอีกสักนิด และน้ำหนักเส้นที่ถึงแม้จะต่าง แต่ต่างกันไม่มาก (แน่นอนว่าไม่เทียบเท่าปากกาหัวทองคำ) ก็ทำให้ปากกาด้ามนี้ยังห่างไกลจากการถูกจัดในหมวดหมู่ปากกา flex pen

หาซื้อได้ที่ไหน

ในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของปากกา TWSBI คือร้าน The PIPS Cafe’ ซึ่งจำหน่ายปากกาในราคา 700 บาท (ถือว่าถูกมาก!) สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และหน้าร้านบริเวณสีลม

สรุป

TWSBI Go เป็นปากกาหมึกซึมราคาถูกที่ถือว่าราคาคุ้มค่าตัวมาก แม้จะมีจุดที่ทีมงานขัดใจเล็กน้อย (ได้แก่การไม่มีแหนบปากกา และน้ำหนักที่เบาเกินไป) แต่เมื่อเทียบกับราคา 700 บาทแล้วก็ย่อมสามารถมองข้ามข้อสังเกตเหล่านี้ไปได้โดยง่าย

ทีมงานเชื่อว่าปากการุ่นนี้สามารถเป็นปากกา piston filling ด้ามแรกในกระเป๋าของใครหลายคน (หรือแม้แต่เป็นปากกาหมึกซึมด้ามแรก) ด้วยคุณภาพการเขียนที่ดี ระบบเติมหมึกที่สามารถจุหมึกได้เยอะ และความคุ้มค่าที่หายากในปากการาคาต่ำกว่าหนึ่งพันบาทครับ