19 เมษายน 2024
รีวิวรีวิวเครื่องเขียนAlchemix ปากกาลูกลื่นดีไซน์โฉบเฉี่ยวจาก Caran d'Ache

Alchemix ปากกาลูกลื่นดีไซน์โฉบเฉี่ยวจาก Caran d’Ache

เมื่อเอ่ยถึง Caran d’Ache หลายคนอาจจะนึกถึงผลิตภัณฑ์อย่างดินสอสีและปากกายอดนิยมอย่าง 849 ที่มีทั้งปากกาลูกลื่นและปากกาหมึกซึม แต่ที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์ของ Caran d’Ache มีหลายรุ่นด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ Alchemix ที่เป็นรุ่นสูงของผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนในกลุ่ม Office Line หรือสำหรับใช้ในสำนักงาน โดยยังคงลักษณะการออกแบบหกเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในเวลาเดียวกันก็ปรับรูปลักษณ์ให้มีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากขึ้น

ไรท์ติ้งอินไทยจึงขอนำทุกท่าน พบกับเครื่องเขียนรุ่นนี้ โดยในครั้งนี้เราจะรีวิวเป็นรุ่น Carbon แบบปากกาลูกลื่นครับ

ข้อมูลแจ้งเพื่อทราบ: รีวิวนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของทีมงาน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ ในทางการเงินจากแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่าย ยกเว้นภาพประกอบเนื้อหาบางชิ้นที่ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น (ระบุไว้ใต้ภาพแล้ว)

ที่มาของ Alchemix และข้อมูลเบื้องต้น

Alchemix เป็นปากกาในกลุ่ม Office Line ของ Caran d’Ache บริษัทผู้ผลิตเครื่องเขียนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใครสนใจสามารถไปอ่านประวัติบริษัทแบบละเอียดจากรีวิวปากกาหมึกซึม 849 ได้) โดยถือกันว่าเป็นรุ่นสูงสุดของกลุ่ม ด้วยราคาที่มากกว่าตัวอื่นๆ

ในกลุ่มของ Office Line ปัจจุบันประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 3 ตัวหลัก คือเครื่องเขียนตระกูล 888 ที่มีราคาถูกที่สุดของกลุ่ม ใช้ไส้ไม่เหมือนกับรุ่นอื่นๆ, ตระกูล 849 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก มีทั้งปากกาหมึกซึมและลูกลื่น และตระกูลสุดท้ายคือ Alchemix ซึ่งเป็นเครื่องเขียนสูงสุดในกลุ่ม

เครื่องเขียนรุ่นนี้วางจำหน่ายครั้งแรกในปี ค.ศ. 2012 โดยเปลี่ยนแปลงการออกแบบไปจากปากกาปกติของบริษัทมากพอสมควร ทั้งเรื่องของวัสดุและดีไซน์ที่หลายคนมองว่า มีความเป็น Caran d’Ache น้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็นการไม่สลักโลโก้ของบริษัทเอาไว้ (มีเพียงตัวอักษรพิมพ์แกะสลัก) ไปจนถึงวัสดุที่แปลกใหม่อย่างการใช้คาร์บอนไฟเบอร์หรือกราไฟต์ เป็นองค์ประกอบของตัวปากกา แต่ในอีกแง่หนึ่งก็มีเสียงตอบรับว่านี่เป็นเครื่องเขียนที่ดูทันสมัยที่สุดเช่นกัน

บริษัทระบุว่า ที่มาของชื่อรุ่นเกิดจากการผสมรวมระหว่างตัวอักษรที่แทนด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของปากกา ดังต่อไปนี้

  • Al เป็นชื่อตัวอักษรในตารางฐาน หมายถึงโลหะอะลูมิเนียมที่เป็นวัสดุโลหะหลักของเครื่องเขียน
  • Ch เป็นชื่อย่อสากลของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในภาษาละติน (Confoederatio Helvetica)
  • Em เป็นการย่อขอคำว่า “Emotion” ที่หมายถึงอารมณ์
  • iX หมายถึง individuality หรือการแสดงออกถึงบุคคล

เครื่องเขียนรุ่นนี้มีวางจำหน่ายรูปแบบการเขียนอยู่สองประเภท ระหว่างปากกาลูกลื่น (ที่อยู่ในรีวิวนี้) โดยใช้ใส้แบบ Goliath ที่สามารถเขียนได้มากถึง 600 หน้ากระดาษ A4 กับดินสอกด มีให้เลือกหลากสีและหลายลายด้วยกัน และถ้าเป็นบริษัทก็สามารถสั่งพิมพ์หรือยิงเลเซอร์ลงบนตัวปากกา เพื่อเสริมเอกลักษณ์ให้กับปากกาได้เช่นกัน

ด้วยความที่เป็นปากการาคาค่อนข้างแพง (ประมาณ 60 สวิสฟรังค์ หรือประมาณ 2,000 บาท ในรุ่นปกติ) ทำให้ในปัจจุบันเริ่มหาได้ยากขึ้น หากซื้อตรงจากบริษัทเองก็เหลือแต่เพียงเฉพาะรุ่นที่เป็นแลกเกอร์เคลือบวัสดุคล้ายยาง (rubber) กับรุ่นที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์เท่านั้น ไรท์ติ้งอินไทยคาดว่ามีแนวโน้มสูงที่บริษัทจะเลิกผลิตรุ่นนี้ในเวลาไม่นานนัก

หน้าเว็บสั่งตรงจากบริษัท
หน้าเว็บสั่งตรงจากบริษัท (ข้อมูลล่าสุด วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561)

สำหรับในรีวิวนี้ เราจะรีวิวปากกาลูกลื่นลายคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งทีมงานได้มาจากงาน Bonjour France 2018 ที่บริษัทตัวแทนจำหน่ายคือ Capital Good Rich เข้าร่วม ในราคาพิเศษ (มาก) ส่วนราคาตามปกติของปากการุ่นนี้ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 4,198 บาท (ไม่รวมส่วนลด)

บรรจุภัณฑ์และตัวปากกา

ตามปกติแล้วกล่องของเครื่องเขียนรุ่นนี้จะเป็นโลหะขนาดใหญ่ (แบบในภาพด้านบน) อย่างไรก็ตามเนื่องจากทีมงานได้มาในราคาพิเศษ ทำให้ไม่มีตัวบรรจุภัณฑ์ปกติติดตามมาด้วย เลยได้เป็นกล่องปากกาหมึกซึม 849 สีแดงสดใสแทน (สวยไปอีกแบบ)

ตัวปากกามีลักษณะเป็น 6 เหลี่ยมตรงกลาง เหมือนกับปากกาตัวอื่นๆ ของบริษัท สิ่งที่แตกต่างออกไปคือดีไซน์ในภาพรวมที่แหวกแนว ไม่มีลักษณะเหมือนปากกาตัวอื่นๆ ของบริษัทเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นก็เป็นข้อดีเช่นกัน เพราะแปลว่าตัวปากกาเองก็มีเอกลักษณ์ของตนเอง ในความเห็นของทีมงาน ปากการุ่นนี้เหมาะกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการดีไซน์ของปากกาสมัยใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์เรียบหรูเอาไว้

เทียบกับปากกาอื่นๆ ในกลุ่ม Office Line ด้วยกัน (ในนี้จะใช้ 849) จะสังเกตได้ว่าเอกลักษณ์และการออกแบบแตกต่างจากปากการุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ส่วนเรื่องขนาดจะใหญ่กว่าตัวปากกาลูกลื่น แต่สั้นกว่าปากกาหมึกซึมอยู่ เพียงเล็กน้อย (มาก) เห็นแบบนี้ Alchemix มีน้ำหนักมากกว่าทั้งสองด้ามที่นำมาเทียบกันอย่างชัดเจน (849 หนักที่ 18 กรัม ส่วนปากการุ่นที่รีวิวหนักถึง 34 กรัม)

จากบนลงล่าง: ปากกาลูกลื่น 849 Nespresso, Alchemix, ปากกาหมึกซึม 849
จากบนลงล่าง: ปากกาลูกลื่น 849 Nespresso, Alchemix, ปากกาหมึกซึม 849

น้ำหนักที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ ทำให้ทีมงานรู้สึกว่าการจับปากกาต้องจับแน่นกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เสียสมดุลอะไรไป ใช้งานได้ดี และให้ความรู้สึกที่จับได้สบายกว่าปากกาลูกลื่น 849 อยู่มากโข เนื่องจากขนาดด้ามปากกาใหญ่กว่า จับเขียนนานๆ แล้วไม่เมื่อยมือแต่อย่างใด

กลไกการขยับไส้ปากกาลูกลื่นเป็นแบบกด (push/knock mechanism) แบบปากกาลูกลื่นโดยทั่วไป ทำจากอะลูมิเนียม รอบโลหะด้านบนของตัวด้ามปากกามีการสลักคำว่า “Caran d’Ache Swiss Made” เอาไว้ ส่วนวัสดุตรงกลางเป็นคาร์บอนไฟเบอร์กับพลาสติก

ปลายด้ามเป็นส่วนโลหะก่อนจะถึงจุดที่ไส้และหัวปากกาออกมาสำหรับเขียน สามารถหมุนออกมาได้เพื่อเปลี่ยนไส้ และเป็นจุดที่ทีมงานกังวลในการใช้งานระยะยาว เนื่องจากวัสดุของส่วนโลหะเป็นอะลูมิเนียม แต่ตัวเกลียวที่ยึดกับตัวด้ามเป็นพลาสติก อาจทำให้เกลียวบนพลาสติกสึกได้ และเป็นคำถามที่เกิดจากการใช้งานในระยะยาวว่าจะทนเพียงใด

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในการใช้งานปากกาลูกลื่น 849 ของทีมงานที่ใช้มานานกว่า 10 ปี ยังไม่เคยเจอปัญหาใดๆ ดังนั้นแล้วทีมงานค่อนข้างเชื่อว่าโอกาสที่เกลียวจะสึกมีน้อยถ้าไม่ได้หมุนออกมาบ่อยๆ

ไส้ปากกาใช้เป็น Caran d’Ache Goliath ไส้ปากกาลูกลื่นที่สามารถใช้ร่วมกันหมดกับปากกาของแบรนด์นี้ (ยกเว้น 888) และเขียนได้มากถึง 600 กระดาษ A4 สำหรับรีวิวนี้เป็นไส้แบบ 8422.00 Medium Blue ครับ ส่วนราคาค่าตัวของไส้อยู่ที่ 350 บาทครับ

ทดสอบเขียนและใช้งานจริง

แม้ทีมงานจะมีประสบการณ์กับปากกาลูกลื่นของค่ายนี้มามากพอสมควร แต่เมื่อต้องมารีวิวจริงจัง ทีมงานก็พบว่าสีน้ำเงินของหมึกปากการุ่นนี้ถือว่า “จาง” เมื่อเทียบกับของค่ายอื่น คำแนะนำคงเป็นว่าหากต้องการสีที่ชัดกว่านี้ อาจต้องเปลี่ยนไปใช้สีดำแทน

อย่างไรก็ตาม ไส้ของ Caran d’Ache เขียนได้ทนทาน ยาวนาน และแห้งไวมาก จากประสบการณ์ของทีมงานพบว่า กว่าจะเปลี่ยนไส้แต่ละทีก็กินเวลาเป็นปี (มีการแซวกันเล่นว่า เปลี่ยนปากกาบ่อยกว่าเปลี่ยนไส้) ส่วนเรื่องประสิทธิภาพของการเขียนก็ลื่นมากเช่นกัน ลื่นจนน่าประทับใจ

จุดที่ปากการุ่นนี้ดีกว่าปากการุ่นอื่นๆ คือเรื่องของขนาดที่สะดวกต่อการจับอย่างมาก และทำให้เขียนไปนานๆ ไม่เมื่อย ขณะที่ตัวปากกาลูกลื่น 849 แม้จะใช้ไส้เดียวกัน แต่ด้วยลักษณะภายนอกที่เลียนแบบดินสอ จับไปนานๆ มีเมื่อยกันได้ ในแง่นี้ปากการุ่นนี้จึงเหมาะกับการเขียนยาวๆ ในห้องประชุมอย่างมาก ทำผลงานได้น่าประทับใจ

เท่าที่ทีมงานใช้งานมาเกือบๆ 2 อาทิตย์ ต้องยอมรับว่าทีมงานประทับใจกับปากกาด้ามนี้อย่างมาก และรู้สึกว่าราคาที่ทีมงานได้มาคุ้มค่าจริงๆ

ราคาและสถานที่จำหน่าย

สำหรับราคาของปากการุ่นนี้ที่จำหน่ายในตลาด อยู่ที่ 4,198 บาท (ไม่รวมส่วนลด) และวางจำหน่ายผ่านทางตัวแทนจำหน่ายทั้งสองแห่ง (Capital Good Rich และ HHK) ทีมงานเห็นปากการุ่นนี้วางจำหน่ายน้อยลงมากในตลาด ใครอยากได้ก็อาจจะต้องลองติดต่อโดยตรงกับทางตัวแทนจำหน่าย เพื่อสอบถามโดยตรง

อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ ทีมงานคงไม่สามารถแนะนำให้ใครซื้อได้จริงๆ ยกเว้นจะชื่นชอบการออกแบบและเงินไม่ใช่ปัญหาเท่านั้น

ส่วนราคาที่ทีมงานได้มา คือ 870 บาท ซื้อจากบูธของ Captial Good Rich ที่ไปออกในงาน Bonjour France 2018 นับว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมากๆ และเป็นโชคดีของทีมงานอยู่ไม่ใช่น้อย

สรุป

Alchemix
Alchemix

เท่าที่อยู่กับปากกาด้ามนี้มาประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ ต้องบอกว่าทีมงานประทับใจทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในการเขียนที่เขียนลื่น น้ำหนักที่พอดี การออกแบบและการจับที่ทำได้ดีมาก เรียกว่าทุกอย่างทำได้ลงตัวสมกับเป็นปากกาจาก Caran d’Ache ไม่ผิดหวังแม้แต่น้อย

แต่ข้อเด่นเหล่านี้ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาหรือข้อกังวลเลยเสียทีเดียว ประการแรกอยู่ที่เรื่องของเกลียวที่เป็นโลหะกับพลาสติก ซึ่งทีมงานตั้งคำถามถึงความทนทานในระยะยาวว่าจะมีปัญหาเกลียวสึกหรือไม่ ซึ่งภายใน 2 อาทิตย์ที่ใช้ทีมงานยังคงไม่มีคำตอบให้ในส่วนนี้ สิ่งที่ตอบได้จากประสบการณ์ของ 849 ที่ใช้แนวทางเดียวกันคือ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แม้จะใช้งานมานานนับทศวรรษแล้ว

อีกประการหนึ่งคือเรื่องของราคาที่แพงมาก ราคาขายปกติที่ไม่มีส่วนลดแล้วแพงแตะหลัก 4 พันบาท ทำให้ทีมงานเกิดความลังเลใจไม่ใช่น้อยที่จะแนะนำปากกาตัวนี้ในราคาปกติแม้จะเขียนดีแค่ไหนก็ตาม คำแนะนำของทีมงานคงเป็นว่า ต้องรอให้ราคาลดลงมาระดับหนึ่งถึงค่อยซื้อ ซึ่งราคาแถวๆ ประมาณ 2 พันบาท จะเป็นช่วงราคาจำหน่ายที่ดีสำหรับปากการุ่นนี้ครับ หรือถ้าอยากได้ประสบการณ์ในการเขียนที่ใกล้เคียงกัน แต่ราคาเป็นมิตรมากกว่ามากๆ ก็แนะนำปากกาลูกลื่น 849 ครับ

ข้อดีข้อเสีย
ดีไซน์ร่วมสมัย เรียบหรูแต่โฉบเฉี่ยวราคาแพงมาก หากซื้อในราคาปกติ
ปากกาเขียนได้ดีความทนทานของเกลียวพลาสติกกับโลหะที่เสี่ยงสึกง่าย
ให้น้ำหนักที่ดี เขียนได้ไม่เมื่อยถ้าใช้นานๆสีหมึกสีฟ้าอาจจางไปสักนิด

สรุปรีวิว

REVIEW OVERVIEW

Caran d'Ache Alchemix

ความเห็นภาพรวม

ปากกาที่ออกแบบมาดี เขียนดี ทำผลงานได้ดี แต่มีจุดอ่อนที่ตรงตัวเกลียวเป็นเหล็กกับพลาสติก ทำให้เกิดคำถามเรื่องความทนทาน และราคาที่ถือว่าสูงมากจนน่าตกใจ ซึ่งถ้าหาซื้อในราคาที่ลดแล้ว จะดีมาก
Patranun Thaniyavarn Limudomporn
Patranun Thaniyavarn Limudompornhttps://www.patranun.com/
เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา คนเดินดิน เรียนจบรัฐศาสตร์ ชอบปากกามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ค่อยได้บอกให้ใครรู้ เริ่มใช้ปากกาหมึกซึมมาตั้งแต่ระดับประถม และใช้ปากกาลูกลื่น Montblanc Generation เป็นปากกาประจำตัว เลิกใช้ปากกาหมึกซึมไประยะหนึ่งก่อนกลับมาใช้ใหม่เพราะเพื่อนฝูงชักชวน แต่ก็ยังวนเวียนกับปากการะดับพรีเมียมเช่นเคย

ติดตามเราบน Facebook

เนื้อหายอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

- Advertisement -
ปากกาที่ออกแบบมาดี เขียนดี ทำผลงานได้ดี แต่มีจุดอ่อนที่ตรงตัวเกลียวเป็นเหล็กกับพลาสติก ทำให้เกิดคำถามเรื่องความทนทาน และราคาที่ถือว่าสูงมากจนน่าตกใจ ซึ่งถ้าหาซื้อในราคาที่ลดแล้ว จะดีมากAlchemix ปากกาลูกลื่นดีไซน์โฉบเฉี่ยวจาก Caran d'Ache